นายอัลเบิร์ต บอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯเปิดเผยว่า ไฟเซอร์ซึ่งทำการวิจัยวัคซีน BNT162b2 สำหรับป้องกันโรคโควิด-19 ร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเท็คของเยอรมนีจะยื่นเรื่องต่อองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ(FDA)ในวันนี้ เพื่อขออนุญาตใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ นับเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายแรกที่ยื่นเรื่องให้ FDA หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของสหรัฐฯ พิจารณาอนุมัติอย่างเป็นทางการ
นายบอร์ลา กล่าวว่า ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเท็ค คาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรคให้กับประชาชนในสหรัฐฯโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ ระหว่างกลางถึงปลายเดือนธันวาคมนี้ การยื่นเรื่องให้ FDA อนุมัตินับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการผลิตและแพร่กระจายวัคซีนไปทั่วโลก ทั้งนี้ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเท็ค ยื่นเรื่องให้ FDA พิจารณา โดยใช้ผลการทดลองระยะท้ายของเฟสที่ 3 หลังเริ่มทำการทดลองในสหรัฐฯตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ใช้อาสาสมัครกว่า 43,000 คน
ผลวิเคราะห์ครั้งสุดท้ายในสัปดาห์นี้บ่งชี้ว่าวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเท็ค สามารถป้องกันโรคโควิด-19 สูงถึงร้อยละ 95 มีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายใช้ได้ดีแม้ในกลุ่มผู้สูงอายุ พร้อมทั้งยื่นเอกสารต่างๆให้ FDA พิจารณารวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก 100 คน อายุระหว่าง 12-15 ปี นอกจากนี้ ร้อยละ 42 ของกลุ่มอาสาสมัครทั่วโลกและร้อยละ 30 ของอาสาสมัครในสหรัฐฯที่เข้าร่วมโครงการนี้มาจากกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มอายุของอาสาสมัครในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 56-85 ปี
Cr: CNN, Financial Times