องค์การอนามัยโลก เตือน เรมเดซิเวียร์ ไม่ควรมาใช้รักษาโควิด-19

20 พฤศจิกายน 2563, 17:26น.


         องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าเรมเดซิเวียร์ (remdesivir) ที่เป็นยาต้านไวรัส ไม่ควรถูกนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ไม่ว่าผู้ป่วยจะมีอาการร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม เพราะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ายาตัวนี้ใช้รักษาโรคดังกล่าวได้          กลุ่มการพัฒนาแนวปฏิบัติ (GDG) ขององค์การฯ ระบุว่าคณะผู้เชี่ยวชาญไม่พบหลักฐานเพียงพอจะบ่งชี้ยาเรมเดซิเวียร์สามารถช่วยรักษาโรคโควิด-19 ทั้งด้านการลดอัตราการเสียชีวิต ลดความจำเป็นในการใช้เครื่องช่วยหายใจ ร่นระยะเวลาในการรักษาทางคลินิก และอื่นๆ โดยหากผลเชิงบวกจากการใช้ยาเรมเดซิเวียร์มีอยู่จริง ก็คงอยู่ในระดับต่ำและยังคงมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดอันตรายจากการใช้ยาตัวนี้อยู่



          คำแนะนำขององค์การฯ ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารบริติช เมดิคอล จอร์นัล (British Medical Journal) อ้างอิงจากการตรวจสอบทบทวนหลักฐาน ซึ่งรวมถึงข้อมูลจากการทดลองแบบสุ่มระหว่างประเทศ 4 รายการ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมากกว่า 7,000 ราย

          หลังจากดำเนินการตรวจสอบทบทวนหลักฐาน กลุ่มฯ ได้ผลสรุปว่ายาเรมเดซิเวียร์ไม่ส่งผลดีต่ออัตราการเสียชีวิตหรือผลลัพธ์สำคัญอื่นๆ ต่อผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับยาตัวนี้แล้ว ทำให้มีความเห็นว่าควรมีการนำเสนอหลักฐานทางประสิทธิภาพของยาตัวนี้ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูล

          ยาเรมเดซิเวียร์เป็นหนึ่งในยา 2 ตัว ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั่วโลก โดยได้รับอนุญาตในสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และประเทศอื่นๆ หลังจากการวิจัยเบื้องต้นพบว่า ยาตัวนี้อาจช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น



          ยาเรมเดซิเวียร์ถูกพัฒนาขึ้นโดยกิลเลียด (Gilead) บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ที่มีราคาสูงมากและต้องถูกฉีดเข้าเส้นเลือดดำ โดยกิลเลียดระบุว่ายาเรมเดซิเวียร์ช่วยกระตุ้นยอดขายช่วงไตรมาส 3 ของบริษัทราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.7 หมื่นล้านบาท)



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X