นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเดินทางเยือนอิสราเอลเมื่อวันพุธ (18 พ.ย.) เพื่อพบหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลที่เยรูซาเล็ม และประกาศสหรัฐฯไม่เห็นด้วยกับการรณรงค์ให้คว่ำบาตรอิสราเอลจากการดำเนินนโยบายต่อชาวปาเลสไตน์ เพราะเป็นการรณรงค์ที่มีพื้นฐานมาจากการต่อต้านชาวยิว และเป็นเวลานานมาแล้วที่การใช้มุมมองที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในเวสต์แบงก์ จากนั้นเขาออกเดินทางไปยังชุมชนชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครองจากปาเลสไตน์ โดยไม่มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้า ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯเดินทางไปยังพื้นที่นี้ โดยเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วนายปอมเปโอเคยแสดงความเห็นว่าการตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในพื้นที่ยึดครองไม่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
หลังจากนั้นเขาเดินทางไปเยี่ยมชมที่ราบสูงโกลัน ซึ่งอิสราเอลเข้ายึดครองดินแดนจากซีเรียในสงครามตะวันออกกลางปี 2510 และผนวกดินแดนในปี 2524 เมื่อปีที่แล้วประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยังประกาศรับรองอย่างเป็นทางการในอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูง
มีชาวยิวมากกว่า 600,000 คนอาศัยอยู่ในนิคมที่พักประมาณ 140 แห่งที่สร้างขึ้นตั้งแต่อิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออกในสงครามตะวันออกกลางปี 2510 ซึ่งประชาคมระหว่างประเทศมีความเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่สหรัฐฯและอิสราเอลยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมาย
นักวิเคราะห์การเมืองตะวันออกกลาง มีความเห็นว่าแม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ของอิสราเอลแต่การที่เขากำลังจะพ้นจากตำแหน่ง การกระทำของนายปอมเปโอจึงเป็นความไม่เหมาะสม
โฆษกของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ ระบุว่า การที่นายปอมเปโอเดินทางไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองคือการสนับสนุนให้มีการยึดครองพื้นที่
ส่วนรัฐบาลซีเรียได้ร้องขอต่อสหประชาชาติให้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำที่เป็นการยั่วยุของนายปอมเปโอ และเป็นการละเมิดอธิปไตยของซีเรียอย่างเปิดเผย
...