ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน 2563

19 พฤศจิกายน 2563, 08:37น.


เอสแอนด์พี คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย BBB+



          นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัท S&P Global Ratings (S&P)คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และมุมมอง ความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ เนื่องจาก ประเทศไทยมีความเข้มแข็งภาคการคลังและภาคการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ หนี้รัฐบาลอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล และสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า



          ภาคการคลังสาธารณะ มีความแข็งแกร่งเป็นผลจากการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบและเป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 เพื่อรักษาวินัยทางการคลัง แม้ว่าการดำเนินนโยบายการคลังผ่านมาตรการต่างๆ ของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะทำให้การขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563-2564 และหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น แต่ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อสถานภาพทางการคลัง



ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบแรง นักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างข่าวดีพัฒนาวัคซีน-ผู้ติดเชื้อที่ยังเพิ่มขึ้น



          ราคาน้ำมันในตลาดโลก ได้แรงหนุนจากกรณีที่บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ระบุว่า การทดลองขั้นสุดท้ายวัคซีนโควิด-19 มีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 95 จากเดิมที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า มีประสิทธิภาพมากกว่าร้อยละ 90



-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 41.82 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนม.ค.2564 เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 44.34 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



          ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทำให้ราคาทองคำ ปิดตลาดวันพุธ 18 พ.ย.2563 ลดลง 2 วันติด



-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 ลดลง 11.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,873.90 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์



          ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบแรง นักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างข่าวดีเกี่ยวกับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีน กับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และผลกระทบต่อเศรษฐกิจของมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาด



-ดาวโจนส์ ลดลง 344.93 จุด หรือร้อยละ 1.16 ปิดที่ 29,438.42 จุด



-เอสแอนด์พี ลดลง 41.74 จุด หรือร้อยละ 1.16 ปิดที่ 3,567.79 จุด



-แนสแดค ลดลง 97.74 จุด หรือร้อยละ 0.82 ปิดที่ 11,801.60 จุด




อนุญาตให้ต่างด้าวในประเทศกักตัวใน SQ ได้

          ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.เห็นชอบให้แรงงานต่างด้าวบริเวณชายแดนที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยเข้ามากักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐ(State Quarantine) ได้ด้วย เนื่องจาก ที่ผ่านมาคนเหล่านี้ไม่สามารถเข้ามากักตัวในสถานที่ของรัฐได้ แต่เราเห็นว่าพวกเขาทำงานในประเทศก็ควรได้รับสิทธิดังกล่าว

ตีกลับลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน ให้ ศบค.ชุดเล็กไปศึกษาใหม่




          การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ยังไม่มีมติเห็นชอบให้ลดเวลากักตัวจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน เพราะที่ประชุม เห็นว่า รายละเอียดมาตรการลดวันกักตัวยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะข้อมูลที่ระบุถ้าลดกักตัวเหลือ 10 วันแล้วต้องเก็บตัวอีก 4 วัน หรือที่เรียกว่า 10+4 วันนั้น ไม่แตกต่าง จากกักตัว 14 วัน ดังนั้น ที่ประชุมจึงลงความเห็นให้ศบค.ชุดเล็กไปทำข้อมูลมาตรการกักตัวเพิ่ม 4 วันให้ชัดเจนขึ้นว่า ต้องกักบริเวณใด หรือให้เก็บตัวอยู่บริเวณใด ต้องอยู่ในโรงแรมหรือไม่



          มีรายงานว่า ความเห็นในที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก ยังมีบางส่วนไม่เห็นด้วย เหตุผลว่าการกักตัว 14 วัน หรือกักตัว 10 วันไม่ต่างกันระหว่างร้อยละ 1.5 กับร้อยละ 0.3  จึงยังสรุปไม่ได้ว่าจะเอาอย่างไร ประกอบกับใกล้เทศกาลปีใหม่เป็นวันหยุดยาว หากออกข่าวไปแล้วประชาชนไม่กล้าเดินทางท่องเที่ยว กลัวมีผลเสียต่อเศรษฐกิจ จึงเห็นว่าหากเลื่อนไปอีก คงไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะถึงอย่างไรก็คาดว่าจะเริ่มปรับเรื่องวันกักตัวในเดือนม.ค.2564 อยู่แล้ว จึงตีกลับให้ไปเตรียมแนวทางมาตรการให้ชัดเจน ซึ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวยอมรับได้ เพราะหลักการยังยึดให้ใช้ในเดือนม.ค.2564 เหมือนเดิม หากนำมาพิจารณาใหม่ช่วงปลายเดือนธ.ค.2563 ยังทัน ไม่น่ามีปัญหา เพราะไม่ใช่การยกเลิก เพียงขอเวลาศึกษาอีกระยะ



ผลตรวจนายกฯ กัมพูชา เป็นลบ เริ่มทำงานทันที



          นายกฯ ฮุนเซน ของกัมพูชา เริ่มกักตัวเองตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.2563 หนึ่งวันหลังจากพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของฮังการี ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังจากเยือนกรุงพนมเปญ ล่าสุด นายกฯ ฮุนเซน โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า กักตัวครบ 14 วันแล้ว และตรวจหาเชื้อโควิด-19 รอบที่ 4 และเป็นรอบสุดท้าย มีผลเป็นลบ เช่นเดียวกับ ภรรยา รวมถึงบอดี้การ์ดและคนขับรถมีผลตรวจเป็นลบทั้งหมดด้วย และจะเริ่มกลับมาทำงานทันทีในวันที่ 19 พ.ย.2563 แต่ยังไม่ให้ลูกๆหลานๆมาหาที่บ้านอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการแพร่เชื้อ

          การเดินทางเยือนกัมพูชาของรัฐมนตรีฮังการี ทำให้มีคนที่ต้องกักตัวจากการสัมผัสติดต่อทั้งทางตรงและทางอ้อมรวม 1,802 คน และจากจำนวนดังกล่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ชาวกัมพูชา 3 คน และชาวฮังการี 1 คน

          กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ระบุว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.2563 เป็นต้นมา กัมพูชามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั้งหมด 304 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 291 คน



 

ข่าวทั้งหมด

X