ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2563

18 พฤศจิกายน 2563, 19:46น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 256



รัฐสภา รับร่างหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 และ 2 ตีตกอีก 5 ฉบับ รวมถึงไอลอว์ด้วย



          หลังการประชุมรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาได้แถลงผลการนับคะแนนการลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ หลังการเปิดให้มีการอภิปรายตั้งเมื่อวันที่ 17-18 พฤศจิกายน ปรากฏว่า ที่ประชุมรัฐสภา รับหลักการในร่างฉบับที่ 1 ที่เสนอโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์และคณะ 576 แบ่งเป็น ส.ส.449คะแนน สว. 127 คะแนน ไม่รับร่าง 21 คะแนน และงดออกเสียง 26 คะแนน



          ส่วนร่างฉบับที่ 2 ซึ่งเป็นของรัฐบาล โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐและคณะ รับหลักการ 647 คะแนน แบ่งเป็น ส.ส. 471 คะแนน สว.176 คะแนน ไม่รับหลักการ 17 คะแนน งดออกเสียง 55 คะแนน แบ่งเป็น ส.ส. 3 คะแนน และ สว. 52 คะแนน ส่วนร่างแก้ไขตั้งแต่ฉบับที่ 3-7 ที่ประชุมไม่รับหลักการเพราะคะแนนไม่ถึง 366 คะแนน ขณะที่ที่ประชุมได้เสนอตั้งคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 45 คน



          สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มไอลอว์ รับหลักการ 212 คะแนน ไม่รับหลักการ 139 คะแนน งดออกเสียง 369 คะแนน



          ส.ส.รัฐบาลที่ลงมติสวนมติคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ลงมติไม่รับหลักการทั้ง 7 ฉบับมี อาทิ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงนายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และนายชุมพล จุลใส ส.ส. ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ด้านน.ส.เพชรชมพู กิจบูรณะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่รับหลักการ 4 ฉบับ คือร่างของฝ่ายค้าน- รัฐบาล ฉบับที่ 5 ที่เกี่ยวกับเช็คบิล คสช.และไอลอว์ นอกนั้นงดออกเสียง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ งดออกเสียงทั้งฉบับของฝ่ายค้านและรัฐบาลเสนอ นอกนั้นอีก 5 ฉบับไม่รับหลักการ



          ด้านส.ส.ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ลงมติในทิศทางที่เคยประกาศไว้ คือรับหลักการทั้ง 7 ฉบับ ขณะที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ลงมติรับหลักการทั้ง 7 ฉบับเช่นกัน  ส่วนนายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานรัฐสภา และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ในฐานะรองประธานรัฐสภา งดออกเสียงทั้ง 7 ฉบับ



วิปรัฐบาลขอบคุณ รัฐสภารับหลักการหลังร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่างของรัฐบาลและฝ่ายค้านร่างที่ 1 และ 2



          นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงขอบคุณสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หลังจากล่าสุดทราบผลอย่างไม่เป็นทางการแล้วว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่างที่ 1 และร่างที่ 2 ได้รับเสียงสนับสนุนเกิน 1 ใน 3 ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 ของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับ ร่างอื่นๆ อะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์หรือสามารถนำมาปรับได้ เชื่อว่าคณะ กมธ.วิสามัญฯ จะนำมาพิจารณาในคณะ กมธ. ทั้งนี้ ในนามวิปรัฐบาลขอขอบคุณทุกท่านที่เสียสละมาทำงานร่วมกันในทุกขั้นตอน



          ส่วนเมื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านทั้งสองร่างจะต้องใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลักหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ถ้าตามธรรมเนียมร่างที่เป็นหลักที่จะพิจารณา คือ ร่างที่ 2 ซึ่งเป็นร่างของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค อย่างไรก็ตาม ร่างที่ 1 และ 2 มีความคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันแค่ปลีกย่อย เช่น ที่มา จำนวน ส.ส.ร. ซึ่งเล็กน้อยสามารถพูดคุยปรับใช้กันได้



          เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ร่างของไอลอว์ไม่ผ่านมติจากที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งสถานการณ์ภายนอกสภาอาจหนักขึ้น นายวิรัชกล่าวว่า อะไรเป็นส่วนดีของไอลอว์จะนำมาพิจารณาด้วย และย้ำเสมอว่าไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวกับพระราชอำนาจอีก 38 มาตราด้วย



ศบศ.เห็นชอบส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ



          ที่ประชุม ศบศ.เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เรื่องแรก คือ มาตรการส่งเสริมการจัดแพ็กเกจท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Amazing Thailand Plus Special Package) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บมจ.การบินไทย และสมาคมโรงแรมไทย มีข้อเสนอทำแพ็กเกจในลักษณะบริการครบวงจร ทั้งการจองตั๋วเครื่องบิน การขอวีซ่าและกระบวนการเดินทางเข้าประเทศ การจองโรงแรม/ที่พัก/ สถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) และบริการท่องเที่ยว



          ในมาตรการนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาดูแพ็กเกจผ่านเว็บไซต์ของการบินไทย และ ททท. โดยมีแพ็กเกจให้เลือก 3 อย่าง คือ



-พัก 2 คืน ฟรี 1 คืน ในกรุงเทพฯ,



-พัก 2 คืน ฟรี 1 คืน ในกรุงเทพฯ และเดินทางไปพัก รร.อื่นด้วยรถยนต์ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ



-และตัวเลือกสุดท้าย พัก 3 คืน ฟรี 2 คืน ในกรุงเทพฯ และเดินทางไปพักโรงแรมอื่นในจังหวัดที่เดินทางไปได้ด้วยเครื่องบิน



          โดยแพ็กเกจนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 ถึง 31 มี.ค.64 และเดินทางได้ถึง 30 เม.ย.64 โดย ททท.จะสนับสนุนเงินค่าเดินทางทั้งค่ารถ ค่าตั๋วเครื่องบินให้ โดยใช้เงินของ ททท.เองประมาณ 20 ล้านบาท



          ส่วนอีกมาตรการคือการปรับสิทธิประโยชน์รองรับกลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูง ภายใต้โปรแกรมพิเศษ Elite Flexible Plus Program โดยผู้เข้าร่วมโปรแกรมจะต้องเป็นสมาชิกบัตร Thailand Elite ประเภทบัตรที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป และอายุบัตรตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ส่วนสมาชิกเดิมต้องมีอายุสมาชิกเหลือไม่ต่ำกว่า 5 ปี สามารถขอเข้าร่วมโปรแกรมและแสดงหลักฐานการลงทุน



         พร้อมได้กำหนดการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจดทะเบียนในไทย หรือลงทุนหุ้น ตามเกณฑ์ ก.ล.ต.กำหนด มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่ได้รับอนุมัติให้เป็นสมาชิก ก็สามารถขอใบอนุญาตทำงานสำหรับคนต่างด้าว (Work Permit) ได้ โดยระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเหมาะสม เบื้องต้นตั้งเป้าหมายขายบัตรนี้ให้ได้ประมาณปีละ 1,000 ใบ ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้ททท.ไปหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป



ศบศ. รับทราบมาตรการการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะกลาง-ระยะยาว  รับข้อเสนอมาตรการรถยนต์เก่าแลกรถใหม่

          นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) วันนี้ (18 พ.ย.) เห็นชอบในหลักการข้อเสนอโครงการบริหารเศรษฐกิจระยะปานกลางและระยะยาว ชุดที่ 2 ที่เสนอโดย คณะอนุกรรมการวิเคราะห์และเสนอแนะมาตรการบริหารเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนในระยะปานกลางและระยะยาว ประกอบด้วย



          โครงการที่ควรได้รับการส่งเสริมแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่มประกอบด้วย การขับเคลื่อน เศรษฐกิจอุตสาหกรรมยานพาหนะไฟฟ้าเพื่อให้ประเทศไทยเป็นเมืองสะอาด เช่น โครงการรถแลกแจกแถม (รถเก่าแลกรถใหม่ 100,000 คัน) โครงการจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทยชนะ และโครงการจัดหารถโดยสารเพื่อประชาชนของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือ ขสมก. โดยการเช่ารถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า เป็นต้น 



          นอกจากนี้ยังสนับสนุนการส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ การส่งเสริมการจ้างงาน เช่น การเสริมสร้างการจ้างงานในภูมิลำเนา โครงการบริบาลชุมชนระดับหมู่บ้าน การส่งเสริมการใช้อินเทอร์เน็ตประชารัฐ เป็นต้น การจัดตั้งสถานที่กักกันแรงงานต่างด้าวใน 11 จังหวัด และการบริหารจัดการภาครัฐด้านการเงินและการค้าระหว่างประเทศ เช่น การจัดทำข้อมูลด้านทรัพยากรการเงินของประเทศ รวมทั้งการรักษาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ประชุมมอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือรายละเอียดมาตรการ โครงการแหล่งเงิน และแนวทางการเร่งรัดขับเคลื่อนให้เป็นไปอย่างเหมาะสมต่อไป



กนง.คงดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ห่วงเงินบาทแข็งค่ากระทบเศรษฐกิจฟื้นตัว



          ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ครั้งที่ 7/2563 ว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยร้อยละ0.50 ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การประสานนโยบายระหว่างหน่วยงานมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยนโยบายการเงินต้องผ่อนคลายต่อเนื่อง สินเชื่อ ควรเร่งกระจายไปสู่ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างตรงจุดและทันสถานการณ์ รวมทั้งเร่งปรับโครงสร้างหนี้



          ขณะที่มาตรการการคลังมีบทบาทสำคัญต่อเนื่อง ควรเร่งเบิกจ่ายและให้ความช่วยเหลือกลุ่ม เปราะบางอย่างตรงจุด ควบคู่กับการยกระดับทักษะแรงงาน เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นอย่างยั่งยืน



          อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปรับตัวดีกว่าที่คาด แต่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า คาดจะใช้ เวลา 2 ปีที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมจะกลับสู่ระดับก่อนโรคโควิด-19จะแพร่ระบาด ตลาดแรงงาน ยังเปราะบางโดยเฉพาะรายได้แรงงานที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้กดดันการบริโภคภาคเอกชน เมื่อปัจจัย สนับสนุนชั่วคราวเริ่มหมดลง ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศยอมรับว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่กดดันแนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้า



          นอกจากนั้น กนง.ยังกังวลต่อสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเร็ว ซึ่งกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง โดยสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ในตลาดเอเชียรวมทั้งไทย ซึ่งตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯและมีความคืบหน้าการผลิตวัคซีน ดังนั้น จึงให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด รวมทั้งพิจารณาความจำเป็นของการดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม ซึ่งวันที่ 27 พฤศจิกายน ธปท.จะมีการเปิดเผยความคืบหน้าถึงการติดตามสถานการณ์ตลาดเงิน



การเมืองไม่กระทบหุ้นไทย บวก 14.78 จุด



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้  1,364.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.78 จุดมูลค่า 66,934.72 ล้านบาท ดัชนีผันผวนในแดนบวกและลบ โดยปิดตลาดช่วงเช้ายังเคลื่อนไหวในแดนลบ จากความกังวลการชุมนุมทางการเมืองในประเทศที่อาจมีความรุนแรงเกิดขึ้น และผลการประชุม กนง. ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับร้อยละ0.50  รวมทั้งในต่างประเทศมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา จากนั้นในช่วงบ่ายดัชนีเริ่มปรับตัวขึ้นจากการเข้าซื้อเพื่อหวังเก็งกำไรของนักลงทุน



          ตลาดหุ้นโตเกียวปิดลดลงจากแรงขายทำกำไร หลังจาก ดัชนีนิกเกอิพุ่งทะลุระดับ 26,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 29 ปีเมื่อวานนี้ และนักลงทุนยังเทขายหุ้นท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในญี่ปุ่น และในประเทศต่างๆ ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 25,728.14 จุด ลดลง 286.48 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนหลังฮ่องกงเปิดเผยว่า ฮ่องกงมีความสนใจจะเข้าร่วมในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดวันนี้ที่ 26,544.29 จุด เพิ่มขึ้น 129.20 จุด หรือ +0.49%



ธนาคาร NAB ของออสเตรเลีย จะเปิดทำการตามปกติพรุ่งนี้ หลังถูกขู่วางระเบิด



ความคืบหน้ากรณีธนาคารเนชั่นแนลออสเตรเลีย (National Australia Bank : NAB) แจ้งปิดทำการธนาคารสาขาประมาณ 700 แห่งทั่วประเทศ หลังพนักงานของธนาคารได้รับอีเมลหรือโทรศัพท์จากคนร้ายเมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ขู่ว่าจะมีการลอบวางระเบิดธนาคารหลายแห่ง หลังการตรวจสอบของตำรวจ พบว่าเป็นเพียงคำขู่เพื่อสร้างความตื่นตระหนกและจากการตรวจสอบไม่พบระเบิดและไม่น่าจะเกิดอันตรายจริงๆ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อจับกุมคนร้ายต่อไป

          ล่าสุด NAB ระบุในแถลงการณ์ว่า ธนาคารขอแจ้งให้ชาวออสเตรเลียทราบว่า ธนาคารพร้อมจะเปิดให้บริการตามปกติตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้ หลังการสอบสวนของตำรวจไม่พบระเบิดตามคำขู่ของคนร้าย ความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ก่อนหน้านี้ ตำรวจของรัฐควีนส์แลนด์ เปิดเผยว่า สาขาธนาคาร NAB หลายแห่งในรัฐควีนส์แลนด์ได้รับอีเมลหรือโทรศัพท์ขู่วางระเบิด ตำรวจคาดว่าคนร้ายอาจจะส่งอีเมลหรือโทรศัพท์ขู่วางระเบิดไปยังสาขาธนาคาร NAB แต่ละแห่ง พร้อมส่งอีเมลไปยังสื่อออนไลน์ของสำนักงานใหญ่ของ NAB ด้วย



          โดยเฉพาะสาขาธนาคารแห่งหนึ่งในเมืองเมลเบิร์น คนร้ายชายที่บอกชื่อว่า เฟย(Faye)ได้โทรศัพท์ไปที่สาขาธนาคาร NAB แห่งหนึ่งในย่านโคเบิร์กในแถบชานเมืองเมลเบิร์น ขอให้ผู้จัดการหญิงของสาขาธนาคาร NAB อพยพพนักงานออกจากธนาคารทันที ทำให้ธนาคารแจ้งปิดให้บริการและอพยพพนักงานและลูกค้าออกจากธนาคารทันที

          ขณะที่ลูกค้าคนหนึ่งของธนาคาร NAB ในนครซิดนีย์ ซึ่งเปิดเผยชื่อว่านายลุค ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ 2GB ว่าเกิดเหตุขู่วางระเบิดในลักษณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งให้ลูกค้าออกจากธนาคารทันที เพื่อความปลอดภัย หลังได้รับแจ้งแล้ว ทั้งพนักงานและลูกค้ารีบวิ่งออกจากธนาคาร เมื่อเขาสอบถามว่าศูนย์บริการลูกค้าและสาขาอื่นๆยังเปิดให้บริการหรือไม่ ผู้จัดการสาขาดังกล่าวตอบว่าปิดให้บริการชั่วคราวทุกแห่ง

ข่าวทั้งหมด

X