ในการที่ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. ไปตรวจเยี่ยมกองบังคับการตำรวจจราจรและศูนย์รับแจ้งเหตุ191 พร้อมด้วย พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยได้พูดคุยให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมมอบอาหารและเครื่องดื่มให้กับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังตรวจความพร้อมเรื่องการจราจร ในช่วงที่ประชาชน กำลังเดินทางกลับมาจากภูมิลำเนามายังกรุงเทพมหานคร หลังการหยุดยาวช่วงปีใหม่ ซึ่งถือว่าการจราจรช่วงนี้สามารถเคลื่อนไปด้วยดี ทั้งถนนพหลโยธินขาเข้า ถนนพระราม 2 ขาเข้า ถนนเอเชียขาเข้า แต่ถนนมิตรภาพช่วง กม.35 อาจติดขัดเล็กน้อย คาดว่าตั้งแต่ช่วงเวลา 15.00 เป็นต้นไป การจราจรจะมีความหนาแน่นมากขึ้น จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในการดูแลพื้นที่ต่างๆ ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจจราจร จะคอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ให้มีความคล่องตัว และกองกำกับการสายตรวจ 191 จะคอยรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับประชาชน และสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที
ส่วนการพัฒนาระบบแจ้งเหตุผ่านสายด่วน191 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จะพัฒนาระบบแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 191 ให้มีความทันสมัยเทียบเท่าต่างประเทศ เนื่องจากสายด่วน 191 ถือเป็นที่พึงอันดับแรกของประชาชนหากเกิดเหตุร้ายขึ้น โดยเดิมทีสามารถรับสายเพียงร้อยละ 30 ต่อวัน แต่หลังจากมีการพัฒนาระบบให้ดีขึ้นสามารถรับสายได้สูงถึงร้อยละ 80 และจะพัฒนาให้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 95 ในอนาคต
ด้านพันตำรวจเอก ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผู้กำกับกองกำกับการศูนย์รวมข่าว 191 เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ให้เพิ่มสายในการรับแจ้งเหตุจาก 15 สาย เป็น 30 สาย และจัดให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ยังไม่มีปัญหาในการปฏิบัติงานแต่อย่างใด ซึ่งปัญหาที่ประชาชนโทรเข้ามาแจ้งส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาการทะเลาะวิวาท รถชน และปัญหาการส่งเสียงดัง
ส่วนเรื่องปัญหาการโทรแกล้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยรับสายนั้น ขณะนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆเพื่อขอความร่วมมือไม่ให้โทรแกล้งเจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าทีาตำรวจจะเข้มงวดในการตรวจหาผู้ที่โทรมาแกล้งเจ้าหน้าที่
...ผสข.สานนท์ เจริญพันธ์ุ