กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย รายงานวันนี้ว่า มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 29,163 คน ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่มีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อต่ำกว่า 30,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 449 ราย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 130,519 ราย นอกจากนี้ ยังมียอดผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 453,401 คน และมีผู้ป่วยรักษาหายที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ 8,290,370 คน ทางการอินเดียได้จัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กรุงนิวเดลีเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วและได้ข้อสรุปว่า จะเพิ่มการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า รวมถึงการเพิ่มจำนวนเตียงในแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางการอินเดียได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในประชาชนไปแล้ว 126,542,907 คน และเมื่อวานนี้สามารถตรวจหาเชื้อได้มากถึง 844,382 คนในวันเดียว
ส่วนทางการรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย ประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอีกครั้งตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อ 21 คนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ ถือ เป็นการแพร่ระบาดในชุมชนครั้งแรกของออสเตรเลียในรอบ 9 วัน นายสตีเวน มาร์แชลล์ มุขมนตรีรัฐเซาท์ออสเตรเลีย กล่าวว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 5 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ขณะที่มีอีก 14 คนที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อและกำลังรอผลตรวจ
เขาเน้นย้ำว่า รัฐเซาท์ออสเตรเลียยังไม่รอดพ้นจากอันตราย และยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการควบคุมการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเท่านั้น และว่า ผู้ป่วยติดเชื้อทุกคนมีความเชื่อมโยงกับชาวออสเตรเลียคนหนึ่งที่เดินทางมาจากต่างประเทศเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน และเข้าสู่มาตรการกักตัวในโรงแรม คาดว่ามีพนักงานโรงแรมหลายคนที่ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาจากการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อ ทางการรัฐเซาท์ออสเตรเลียวิตกกังวลว่า การแพร่ระบาดอาจขยายวงกว้างออกไปนอกเหนือจากกลุ่มพนักงานโรงแรมและผู้ใกล้ชิด จึงสั่งให้ชาวออสเตรเลียราว 4,000 คนกักตัวในบ้าน ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 27,800 คน และผู้เสียชีวิต 906 ราย