พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบอาคารรัฐสภา ตั้งแต่แยกเกียกกาย ถนนสามเสน จนถึงที่หน้าทางเข้ารัฐสภา พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่บริเวณหน้ารัฐสภา ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมในระยะ 50 เมตร ไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปทำกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่หน้ารัฐสภาวางแนวแบริเออร์ปิดตายและมีกำลังตำรวจดูแลตลอดแนว เปิดช่องทางเข้าอาคารรัฐสภาช่องทางหลักช่องทางเดียว คือ จากถนนทหารเลี้ยวขวาผ่านแยกเกียกกาย และอนุญาตเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในอาคารรัฐสภาหรือสื่อมวลชนเท่านั้น
ส่วนเส้นทางน้ำ มีเรือตรวจตรา ดูแลความเรียบร้อยเป็นระยะๆ โดยเจ้าหน้าที่การท่าเรือ ยืนยันว่า ยังให้บริการตามปกติ ยังไม่มีคำสั่งให้ปิดท่าเรือชั่วคราวแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่จะประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงบ่าย ว่าจะต้องปิดเส้นทางสัญจรเส้นทางใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ส่วนข้อมูลการข่าวพบว่า กลุ่มไทยภักดี จะทำกิจกรรมบริเวณถนนประชาราษฎร์สาย 1 จนถึงเวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนในช่วงบ่าย กลุ่มราษฎรจะเดินทางมาทำกิจกรรมบริเวณแยกบางกระบือ โดยจะประเมินอีกครั้งว่าจะมีการปักหลักค้างคืนหรือไม่
ด้าน พล.ร.ท.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณี สำนักงานเลขารัฐสภา ขอเรือสนับสนุนเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ของ ส.ส. และ สว. ในการประชุมร่วมรัฐสภา กรณีหากกลุ่มผู้ชุมนุมปิดเส้นทางบกและจำเป็นต้องใช้เส้นทางทางเรือในการอพยพ ส.ส.และ สว. ร่วมถึงเจ้าหน้าที่ประจำรัฐสภา โดยกองทัพเรือสนับสนุนเรือจากกรมการขนส่งทหารเรือ และกองเรือลำน้ำ เตรียมพร้อมหากมีความจำเป็น ส่วนกรณีผู้ชุมนุมจะนำเรือเป็ดใช้เดินทางน้ำไปยังรัฐสภานั้น พล.ร.ท.เชษฐา กล่าวว่า อยู่ในความรับผิดชอบกรมเจ้าท่า และตำรวจน้ำในการดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนกองทัพเรือ จะเข้าบูรณาการกรณีฉุกเฉิน
มีรายงานว่า กองทัพเรือจัดตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจเคลื่อนย้ายและรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญทางน้ำ โดยเตรียมเรือจำนวน 20 ลำ ของกรมการขนส่งทหารเรือ และเตรียมเรือจำนวน 3 ลำไว้สำหรับ ส.ส. และ สว.รวมถึงเรือตรวจการณ์จู่โจม เรือตรวจการลำน้ำกองทัพเรือ เรือยางท้องแข็ง