ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2563

16 พฤศจิกายน 2563, 12:55น.


เตือน! 18-19 พ.ย. ฝุ่น PM 2.5 เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะฝั่งธน สมุทรสาคร นนทบุรี   



          กรมควบคุมมลพิษ เตือนประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 คาดว่าจะเพิ่มปริมาณขึ้นในอีก 2 วันข้างหน้า นายศิวัช พงษ์เพียจันทร์ โฆษกกรมควบคุมมลพิษ แถลงถึงการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองว่า สภาพอากาศในวันนี้ อยู่ในระดับดี-ดีมาก โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก แต่สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่าเริ่มมีบางพื้นที่ที่ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ได้แก่ 



1. ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน 58 มคก./ลบ.ม.



2. ริมถนนคลองทวีวัฒนา 60 มคก./ลบม.



3. ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 8 เขตหนองแขม 57 มคก./ลบม.



4. ริมถนนเอกชัย เขตบางบอน 51 มคก./ลบม.



5. ต.มหาชัย อ.เมือง สมุทรสาคร 67 มคก./ลบม.



6. ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร 56 มคก./ ลบม.



          สำหรับสภาพอากาศในวันพรุ่งนี้ กรมควบคุมมลพิษ คาดว่า ความเข้มข้นของฝุ่นจะมีแนวโน้มลดลง เพราะไทยจะได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชันหว่ามก๋อ ที่จะอ่อนกำลังลงเป็นความกดอากาศต่ำ ทำให้อากาศไหลเวียนได้ดี แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ช่วงวันที่ 18-19 พ.ย.นี้ ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 จะเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ที่น่าเป็นห่วง คือ ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเทพมหานคร หรือ ฝั่งธนบุรี รวมทั้งจังหวัดสมุทรสาคร นนทบุรี เนื่องจาก สภาพอากาศเอื้ออำนวย 



          ส่วนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน คาดว่า พรุ่งนี้จะมีฝนตกในพื้นที่ จึงช่วยลดปริมาณฝุ่นลงไปได้ แต่ 2-3 วันหลังจากนี้ไป ค่าฝุ่นอาจเพิ่มขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ลดทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก  รวมทั้งสามารถติดตามสภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK



          โฆษกกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ประเทศไทยประสบความสำเร็จและได้รับคำชมเชยในการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ดังนั้นหากทุกคนร่วมมือกันอีกครั้ง ก็เชื่อว่าจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตฝุ่นละอองครั้งนี้ไปได้  โดยช่วยกันลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง เช่น การเผาไหม้จากท่อไอเสีย หรือการเผาขยะ เผาวัชพืช และพืชผลทางการเกษตร  



'สศช.'เปิดตัวเลข จีดีพี ไทย ไตรมาส 3 ปีนี้ดีขึ้น



          นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึง รายงานภาวะเศรษฐกิจและรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 3/2563 ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยหดตัวลงร้อยละ 6.4 ปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์มากและปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่ 2



สำหรับปัจจัยหนุนการเติบโตเศรษฐกิจไตรมาส 3



-มาตรการคลายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมต่างๆกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น



-การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้น



-เศรษฐกิจโลกไตรมาส 3 ฟื้นตัวขึ้น หลังจากติดลบต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อช่วงไตรมาส 2/2563



          เศรษฐกิจไทยจะกลับมาเป็นบวกได้ในปี 2564 ที่ร้อยละ 3.5-4.5 จากปัจจัยต่างๆ



-การควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ



-เศรษฐกิจไทยได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการภาครัฐ



-การเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศแบบสเปเซียล ทัวร์ริส วีซ่า



-การปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจและการค้าโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย



-การเบิกจ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท คาดว่า จะสามารถเบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของเงินกู้



นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยง คือ



-อัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สศช.ยังติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เพื่อหามาตรการรองรับ



-สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2564 ที่ปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ในระดับต่ำ



-การระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 ในต่างประเทศที่ส่งผลให้มีการปิดเมือง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทย



-ความเสี่ยงในเรื่องประสิทธิภาพและการขนส่งวัคซีน คาดว่า จะมีวัคซีนใช้ทั่วโลกในช่วงไตรมาส 3/2564



-ภาวะสังคมไทยไตรมาส 3/2563 มีผู้ว่างงาน 740,000 คน คิดเป็นอัตราการว่างงานเท่ากับร้อยละ 1.90 ใกล้เคียงกับร้อยละ 1.95 จากไตรมาส 2



พุธนี้ รัฐมิชิแกน เริ่มมาตรการปิดสถานที่เสี่ยงโควิด-19 เพิ่มขึ้น 



          นางเกรทเชน วิทเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐมิชิแกน กำลังอยู่ในช่วงเวลาย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และทางการจำเป็นต้องประกาศใช้คำสั่งห้ามการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่วันพุธนี้ ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 สัปดาห์



-งดการจัดกิจกรรมในสถานบันเทิง



-ห้องจัดคอนเสิร์ต



-โรงภาพยนตร์



-สนามกีฬา ยกเว้นการแข่งขันกีฬาระดับอาชีพและระดับวิทยาลัยบางประเภท ซึ่งจะช่วยทำให้รัฐมิชิแกน รักษาชีวิตพลเมืองได้หลายหมื่นคน



-คาสิโน



-ลานสเก็ต



          ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน เน้นย้ำว่า หากไม่ใช้มาตรการเหล่านี้ รัฐมิชิแกน อาจมีผู้เสียชีวิตราว 1,000 รายต่อสัปดาห์ ซึ่งคิดเป็น 3 เท่าของยอดผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สำนักงานสุขภาพและบริการมนุษย์ของรัฐมิชิแกนได้สั่งห้ามการจัดการแข่งขันกีฬาเกือบทั้งหมดในช่วง 3 สัปดาห์ข้างหน้า



          นอกจากนี้ นางวิทเมอร์ ยังเตือนให้ชาวรัฐมิชิแกน งดเชิญครอบครัวอื่นมาร่วมเฉลิมฉลองในวันเทศกาลขอบคุณพระเจ้าที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า



          เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว รัฐมิชิแกน ทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุด 8,516 คน มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 251,813 คน และมีผู้เสียชีวิต 7,994 ราย



 

ข่าวทั้งหมด

X