ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2563

16 พฤศจิกายน 2563, 06:04น.


เบลเยียม ไม่กักตัว ซานตาครอส 14 วัน เพื่อให้แจกของขวัญให้เด็กๆได้




          สถานการณ์การติดเชื้อรอบ 2 ในหลายประเทศในยุโรป นายแฟรงค์ แวนแดนเบราค์ รัฐมนตรีสาธารณสุขเบลเยียม เขียนจดหมายถึงซานตาคลอสว่า กรุงบรัสเซลล์ ของเบลเยียม จะไม่ใช้มาตรการกักตัว 14 วัน กับซานตาครอส ขวัญใจเด็กๆ แน่นอน เพื่อให้สามารถเดินหน้าแจกของขวัญเด็กๆ ได้ตามปกติ เพราะรู้ว่า ซานตาครอส ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ทันเวลาในการแจกของขวัญ ทำให้ยกเว้นไม่ต้องกักตัว




          CNN รายงานว่า ในวันที่ 6 ธ.ค.ของทุกปี เด็กๆ ชาวเบลเยียมจะต้องตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพื่อดูว่า เซนต์นิโคลัส หรือ ซินเตอร์ คลาส (Sinterklaas) ตามภาษาเฟลมมิช (Sinterklaas) ที่ใช้ในบางส่วนของเบลเยียม หรือ ซานตาคลอส ที่ทั่วโลกรู้จักกันดีได้วางของขวัญไว้ให้หรือไม่ ในบางพื้นที่ของเบลเยียม มีความเชื่อกันว่า ซานตาคลอสเดินทางด้วยเรือจากสเปนและได้วางของขวัญให้เด็กๆ ในค่ำวันที่ 5 ธ.ค.การเดินทางจากสเปนมาทางเรือนานร่วม 17 วันถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของระยะเวลากักตัวไปในตัวแล้วสำหรับเคสนี้

           ซานตาคลอส จะได้รับการยกเว้นในเรื่องเวลาเคอร์ฟิว แต่ยังเตือนให้เขารับรู้ถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและสวมหน้ากากอนามัยตามความจำเป็น โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังวางของขวัญไว้ให้กับเด็กๆและช่วงร้องเพลง





CR:BBC

 



3 รัฐในสหรัฐฯ เรียกร้องให้เลี่ยงการเดินทางวันขอบคุณพระเจ้า



           นายวิเวค เมอร์ธี ที่ปรึกษาด้านโรคติดเชื้อโควิด-19 ของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ เปิดเผยว่า มาตรการในการควบคุมโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยอดติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมากกว่าวันละ 167,000 คน เป็นสถิติสูงสุดใหม่



          ด้าน นพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว แนะนำให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากอนามัย ในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าของปีนี้ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย. 2563 นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ชาวอเมริกันดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม, หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและล้างมือบ่อยๆหลักการด้านสาธารณสุขจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากรัฐบาลชุดเก่า



          รัฐแคลิฟอร์เนีย, รัฐโอเรกอน และรัฐวอชิงตัน ร่วมกันเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกรัฐ เนื่องจาก บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแสดงความวิตกว่า การเดินทางในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าจะยิ่งทำให้มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 และเพิ่มจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล



          ดร.โรเบิร์ต คิม-ฟาร์ลีย์ ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในลอสแอนเจลิสระบุว่า การพุ่งขึ้นของยอดติดเชื้อโควิด-19 เป็นผลจากการเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีน และเตือนว่ายอดติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีก หากชาวอเมริกันไม่สนใจคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางและการรวมตัวกันในวันขอบคุณพระเจ้าปลายเดือนนี้และในช่วงคริสต์มาส



กักตัว! บอดี้การ์ด ‘ทรัมป์’กว่า 130 คน หวั่นแพร่เชื้อโควิด-19



          โควิด-19 ระบาดเพิ่มมากขึ้น พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกิน 100,000 คน ต่อเนื่องมากกว่า 10 วัน ในส่วนบุคคลใกล้ชิด นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีรายงานอ้างอิงจากวอชิงตันโพสต์ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาของนายทรัมป์กว่า 130 คน อยู่ระหว่างการกักกันตัวหรือแยกกักโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีการติดตามผู้ใกล้ชิดกับทั้งหมดด้วย รายงานข่าวอ้างอิงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับหน่วยอารักขาระบุว่า เจ้าหน้าที่ทั้งหมดมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก หรือมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้มีผลตรวจโรคเป็นบวก



          การระบาดในกลุ่มเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขานายทรัมป์ เชื่อมโยงกับการจัดแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง 3 พ.ย.2563



          ส่วนบุคคลคลายคนที่ใกล้ชิดนายทรัมป์ที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองในคืนวันเลือกตั้งที่ทำเนียบขาว เช่น นายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว, นายเบน คาร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมือง, นายไบรอัน แจ็ก ผู้อำนวยการด้านการเมืองประจำทำเนียบขาว



‘ทรัมป์’เรียกร้องสภาคองเกรส ไฟเขียว กม.คลี่คลายวิกฤต



          นายทรัมป์ ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ เรียกร้องให้สภาคองเกรส ผ่านกฎหมายที่ช่วยทำให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น  เนื่องจากผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศ และเรื่องนี้พรรคเดโมแครตต้องให้ความสำคัญและสนับสนุน



          ด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งทะยานขึ้น อยู่ในขั้นวิกฤตที่สมาชิกสภาคองเกรสทุกคนต้องร่วมมือกัน แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส ก็ยังเดินเรื่องให้มีความล่าช้า จะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น



‘อีลอน มัสก์’ เผยมีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อโควิด-19 แต่อาการไม่รุนแรง



           นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ตนเองมีแนวโน้มสูงเป็นอย่างมากว่าจะติดเชื้อโควิด-19 แต่อาการไม่รุนแรง มีอาการไข้หวัดเล็กน้อย พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความแม่นยำของระบบการตรวจสอบ เนื่องจากผลการตรวจจากห้องแล็บต่างๆ  แสดงผลที่แตกต่างกัน หลังจากที่ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของนายอีลอน มัสก์ ก่อนหน้านี้มีทั้งผลบวก2 ครั้ง และผลลบ 2 ครั้ง



          ก่อนหน้านี้ นายอีลอน มัสก์ ระบุผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ไวรัสโคโรนาเป็นไวรัสประเภทไข้หวัด ซึ่งดูเหมือนว่า การทวีตดังกล่าว จะไม่ค่อยใส่ใจกับความเสี่ยงของไวรัสเท่าไรนัก



กรีซ ปิดโรงเรียนอนุบาล-ประถม 2 สัปดาห์ หลังล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวสู้โควิด



          ตั้งแต่วันนี้ 16 พ.ย. 2563 กรีซ ปิดโรงเรียนในระดับอนุบาลและระดับประถมทั่วประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์ให้มีการเรียนการสอนผ่านทางไกลในโรงเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย รวมทั้งมหาวิทยาลัยที่จะหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 2-3 วัน ยกเว้นโรงเรียนสำหรับเด็กผู้พิการ



          มาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ปกครอง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 2,835 คน เสียชีวิตเพิ่ม 38 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 72,510 คน และยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมแตะ 1,000 ราย จำเป็นต้องใช้มาตรการต่างๆ เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์และทุกคนต้องเสียสละ



          ก่อนหน้านี้ กรีซได้ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศไปแล้ว เป็นการประกาศปิดประเทศครั้งที่ 2 ของปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 7-30 พ.ย.2563 และยังมีมาตรการเคอร์ฟิวในช่วงกลางคืนซึ่งเริ่มบังคับใช้ทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว




 




 

ข่าวทั้งหมด

X