ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดโคเซนซ่าของอิตาลีเปิดเผยผลการสืบสวนเหตุขบวนการลักลอบค้ามนุษย์ทิ้งผู้ลักลอบเข้าเมืองไว้บนเรืออีซาดีน ซึ่งเป็นเรือสินค้าสัญชาติเซียร์ร่า ลีโอน กลางทะเลเมอดิเตอร์เรเนียน โดยเชื่อว่าผู้อยู่ร่วมในขบวนการลักลอบค้ามนุษย์จะได้ค่าจ้างจำนวน 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 96 ล้านบาท จากผู้ที่ต้องการลักลอบเดินทางเข้าอิตาลีจำนวน 359 คน
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการเดินทางไปกับเรือลำนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรีย ต้องจ่ายเงินให้กับขบวนการค้ามนุษย์คนละ 4,000 – 8,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 128,000 – 256,000 บาท แต่ทั้งหมดถูกขบวนการลักลอบค้ามนุษย์ปล่อยทิ้งไว้บนเรือ ขณะแล่นอยู่กลางทะเล โดยไม่มีคนขับเรือทั้งไม่มีสมาชิกขบวนการหลงเหลืออยู่ จนเมื่อเรือลาดตระเวนชายฝั่งของอิตาลีตรวจพบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงลากเรือไปไว้ที่ท่าเรือโคริกเกรียโน คาลาโบร ของอิตาลี ขณะนี้บรรดาผู้ลักลอบเข้าเมืองได้ถูกแยกไปไว้ตามศูนย์ผู้ลี้ภัยแห่งหลายในอิตาลีแล้ว ผลจากการสอบปากคำผู้ลักลอบเข้าเมืองระบุว่า ผู้ที่พาพวกเขาขึ้นเรือปิดประตูขังพวกเขาไว้บนเรือแล้วก็ลงเรือเล็กออกไป
เรือสินค้าอีซาดีน นับเป็นเรือขนผู้ลักลอบหลบหนีเข้าอิตาลีโดยผิดกฎหมายลำที่สองที่ขบวนการค้ามนุษย์ปล่อยทิ้งไว้กลางทะเล และถูกทางการอิตาลีจับกุมได้ในรอบสัปดาห์เดียวกัน อันแสดงให้เห็นว่าเป็นกลวิธีใหม่ที่ขบวนการค้ามนุษย์นำมาใช้ ด้วยการเลือกใช้เรือสินค้าที่มุ่งหน้าสู่อิตาลี แล้วปล่อยเรือไว้พร้อมกับผู้ลักลอบเข้าเมือง เพื่อหวังให้ทางการอิตาลีเข้ารับตัวไป โดยสภาพของคนบนเรือดีกว่าเรือลำอื่นๆ ทั้งเสื้อผ้าและความเป็นอยู่บนเรือ
ทั้งนี้ ชาวซีเรียจำนวนมากได้พยายามหาทางเข้าไปในอิตาลีจำนวนมาก เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป เพราะไม่สามารถทนภาวะสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในซีเรียได้ เฉพาะเมื่อปี 2557 เพียงปีเดียว พบว่ามีผู้อพยพเกือบ 3,500 คน เสียชีวิต ขณะกำลังเดินทางข้ามทะเลเมอดิเตอร์เรเนียน ขณะที่อีกกว่า 200,000 คน ได้รับการช่วยเหลือจากทางการอิตาลีไว้ได้
**7.53F174**