ในปีนี้ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นมากถึง 21 ลูกซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่พายุจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นในปีต่อไป ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยซูเปอร์ไต้ฝุ่นโกนีซึ่งเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นว่าโรลลี ที่เคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ทางใต้ของเกาะลูซอนเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย มีผู้ได้รับผลกระทบเกือบ 1,000,000 คน สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานและพื้นที่การเกษตร มูลค่าความเสียหายมากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯซึ่งในขณะที่กำลังมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย พายุหว่ามก๋อก็เคลื่อนที่ผ่าน และทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงมะนิลาเมื่อวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.) ทำให้มีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 27 ราย
พายุหว่ามก๋อเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 21 แล้วที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนเกือบ 1 ใน 4 ของพายุไต้ฝุ่นทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลก โดยระหว่างปี 2549 ถึง 2559 มีพายุไต้ฝุ่น 99 ลูกที่เคลื่อนที่ผ่านฟิลิปปินส์ โดยพายุที่รุนแรงที่สุดคือไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6,000 รายในปี 2556 นางเอสเปรัน ซาคายานัน จากสำนักงานการวิจัยและพัฒนาของปากาซา หรือสำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ กล่าวว่าพายุไต้ฝุ่นมักจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และจะยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นไปอีก เมื่ออุณหภูมิผิวน้ำทะเลร้อนขึ้นและบรรยากาศที่ร้อนขึ้น นอกจากนี้การที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น หมู่เกาะหลายแห่งจะถูกลบออกจากแผนที่ ขณะที่ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศหมู่เกาะที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด จึงไม่มีสถานที่ที่มีความปลอดภัยอีกต่อไป
ทั้งนี้ อุณหภูมิของน้ำทะเลในมหาสมุทรตอนกลางมีอุณหภูมิต่ำกว่าน้ำทะเลที่อยู่รอบ ๆ ฟิลิปปินส์ เป็นตัวเร่งการก่อตัวของพายุไต้ฝุ่น เมื่ออุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นจึงหมายถึงฝนที่ตกหนักกว่าเดิม รองศาสตราจารย์วิลเลียม โฮลเดน ผู้เชี่ยวชาญภาคสนามจากภาควิชาภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยคาลการี กล่าวว่า ในศตวรรษหน้าพายุหมุนเขตร้อนเช่นซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนจะกลายเป็นบรรทัดฐาน และจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับชุมชนที่อยู่ห่างจากชายฝั่งไม่เกิน 50 กม. ซึ่งจะต้องเผชิญกับระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้านดร.อันโตนิโอ ลาวิญา ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสิ่งแวดล้อมและผู้อำนวยการบริหารของหอสังเกตการณ์มะนิลา แนะนำว่าไม่ควรพิจารณาความรุนแรงของพายุจากจำนวนผู้เสียชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาจากความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากพายุประกอบไปด้วย โดยยกตัวอย่างอัตราการเสียชีวิตจากพายุโกนี ที่น้อยกว่าพายุอื่น ๆแต่พายุนี้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของเกาะลูซอน
...