ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2563

13 พฤศจิกายน 2563, 12:51น.



คนร้าย จี้ชิงเงินแบงค์ทหารไทย สาขาถนอมมิตร-วัชรพล อ้างตกงาน-ติดหนี้พนันออนไลน์



          ช่วงค่ำวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับคนร้ายชิงเงินธนาคารทหารไทย สาขาถนอมมิตร-วัชรพล ในพื้นที่ สน.คันนายาว ได้ที่ห้องพักใน ซ.รามคำแหง พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พร้อมชุดสืบสวนและพิสูจน์หลักฐาน คุมตัวนายกานต์ชนก ศรีสวัสดิ์ อายุ 35 ปี อดีตพนักงานบริษัทเอกชน ไปชี้จุดก่อเหตุและเส้นทางหนี หลังชุดสืบสวนสะกดรอยตามภาพจากกล้องวงจรปิดจับกุมได้ที่ห้องพักเมื่อคืนนี้



          นายกานต์ชนก บุกเดี่ยวใส่โม่งดำ สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า สวมเสื้อลายพราง กางเกงขายาวสีดำ เข้าไปในธนาคารทหารไทย สาขาถนอมมิตร-วัชรพล ใช้ปืนจี้บังคับพนักงานให้นำเงินออกมา 2,000,000 บาท แต่สุดท้ายได้ไป 416,000 บาท ก่อนหนีไปเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อคลุมสีดำ หลบหนีไป



-จุดแรกอยู่ใน ซ.วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เป็นจุดที่ผู้ต้องหาเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังก่อเหตุ และหอบเงินของกลางหนีไปยังที่พัก โดยใช้เส้นทาง ถ.สุขาภิบาล 5



-ส่วนจุดที่ 2 เป็นจุดเกิดเหตุพื้นที่ธนาคารทหารไทย โดยเจ้าหน้าที่ให้ผู้ต้องหาจำลองเหตุการณ์ เริ่มตั้งแต่ก่อนเดินเข้าธนาคาร ชักปืน และข่มขู่พนักงาน




          ตำรวจ บอกว่า ที่พาผู้ต้องหามาชี้จุด เพราะผู้ต้องหา สารภาพว่าลงมือชิงเงินจริง แต่อ้างว่าทำไปเพราะคิดน้อยไปหน่อย เนื่องจากถูกให้ออกจากงาน ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เมื่อ 3 เดือนก่อน แต่ต้องการเงินไปใช้หนี้พนันออนไลน์ หลังก่อเหตุได้นำเงินประมาณ 10,000 บาท ไปใช้หนี้และใช้จ่ายทั่วไป ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนบีบีกัน ไม่ใช่ปืนจริง



พรุ่งนี้ !รองผบช.น.ขอให้เลี่ยงพื้นที่ถนนราชดำเนินและถนนโดยรอบ มีการชุมนุม 3กลุ่ม



         การชุมนุมทางการเมืองหลายกลุ่มในวันพรุ่งนี้(14 พ.ย.2563) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย รวมทั้งจัดการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 14 พ.ย. 2563จะมีผู้ชุมนุม 3 กลุ่ม  คือ



1. กลุ่มนักเรียนเลว ที่จะเริ่มชุมนุมในช่วงบ่าย แต่ยังไม่กำหนดเวลาที่ชัดเจน พื้นที่ชุมนุมคือ หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินกลาง และมีแนวโน้มเดินจากหน้ากระทรวงศึกษาธิการไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 



2. กลุ่มผู้หญิงปลดแอก จะจัดงาน "เฟมินิสต์ปลดแอก" ที่บริเวณแยกคอกวัว 



3. กลุ่ม Mob Fest บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น.-24.00 น. โดยการจัดชุมนุมรอบบาทวิถี รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บริเวณร้านแมคโดนัลด์ 



กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 34 กองร้อย จัดการดูแลเป็น 3 โซนใหญ่ แบ่งเป็น 



- กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ดูแลโซนบริเวณถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่แยกลานพระรูป แยก จปร. แยกมัฆวาน ถึงแยกผ่านฟ้าฯ และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยกคอกวัว และใกล้เคียง 



- กองบังคับการตำรวจนครบาล 6  อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยรอบ ไปจนถึงถนนราชดำเนิน สะพานผ่านพิภพฯ และสนามหลวงโดยรอบ ซึ่งถือเป็นพื้นที่สำคัญ



- เจ้าหน้าที่ชุดดูแลความเรียบร้อยในภาพรวม กรณีผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่ที่แจ้งไว้ 



          ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า มีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ คือ โดยรอบถนนราชดำเนิน ทั้งราชดำเนินนอก ราชดำเนินกลาง ราชดำเนินใน  ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนหลานหลวง ถนนจักรพรรดิพงษ์ ถนนวิสุทธิกษัตริย์  ถนนตะนาว ถนนดินสอ และสะพานพระราม 8  คาดว่า จะได้รับผลกระทบตั้งแต่เวลา 12.00 น.โดยหลักการ เจ้าหน้าที่จะไม่ปิดการจราจร แต่หากผู้ชุมนุมลงมากีดขวางพื้นผิวจราจรจึงจะประกาศปิดการจราจร  



          ส่วนเส้นทางที่ประชาชนสามารถใช้หลีกเลี่ยงได้ คือ ถนนอัษฏางค์ ถนนสุโขทัย ถนนสวรรคโลก ถนนหลานหลวง ถนนเจริญกรุง สะพานกรุงธน สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า  สะพานพระปกเกล้า และสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน



พายุหว่ามก๋อ ทำให้ชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิต 26 ราย




          สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของฟิลิปปินส์ แถลงว่าอิทธิพลของไต้ฝุ่นหว่ามก๋อ ที่ในฟิลิปปินส์เรียกว่า "พายุยูลิซิส" พายุลูกที่ 21 ที่พาดผ่านประเทศในปีนี้ ได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับเกาะลูซอน เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดและอยู่ทางเหนือของฟิลิปปินส์ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 26 ราย ขณะที่ กรุงมะนิลาซึ่งตั้งอยู่บนเกาะลูซอนเช่นกัน ต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมฉับพลันหลายจุด



          ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.2563 ฟิลิปปินส์เผชิญกับอิทธิพลของไต้ฝุ่น 2 ลูก ในเวลาใกล้เคียงกัน เริ่มจากไต้ฝุ่น "โมลาเบ" พาดผ่านเกาะลูซอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 ราย ตามด้วยไต้ฝุ่น "โคนี" ที่ขึ้นฝั่งที่เกาะลูซอน ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางรุนแรงที่สุดในปีนี้ ทำให้ชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย



สั่งปรับแพง! เกาหลีใต้ ปรับคน-เจ้าของกิจการ ไม่สวมหน้ากากอนามัย ในพื้นที่สาธารณะ



         ทางการเกาหลีใต้ ประกาศปรับเงินประชาชนที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ เนื่องจาก ตัวเลขผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น



          ทางการเกาหลีใต้ประกาศว่า หากพลเมืองคนใดไม่สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะที่รวมถึงไนต์คลับ ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก และร้านตัดผม จะต้องโดนปรับเงินกว่า 100,000 วอน (2,713 บาท) ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจจะถูกปรับเงินกว่า 3,000,000 วอน (81,396 บาท)



          การใช้นโยบายที่เข้มงวดมีขึ้นหลังจากที่ทางการเกาหลีใต้ออกคำสั่งบังคับพลเมืองให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่อีก 23 แห่ง เช่น สปา ห้องจัดงานแต่งงาน และห้างสรรพสินค้า



          ทางการสาธารณสุขเกาหลีใต้ รายงานว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 191 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 162 คน และกว่าร้อยละ 50 เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้หรือเคซีดีซี เปิดเผยว่า เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 28,133 คน และมีผู้เสียชีวิต 488 ราย



          ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีจากการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในประชาชนและการติดตามผู้สัมผัสอย่างรวดเร็ว แต่กลับเผชิญกับปัญหาในการควบคุมการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนเล็ก ๆ โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา




 

ข่าวทั้งหมด

X