เมื่อช่วง เวลา 17.38น. นางจินดา ชัยยารังกิจรัตน์ แจ้งลืมกระเป๋าสะพายใส่อุปกรณ์เด็กอ่อนบนรถแท็กซี่ ผ่านทางจส.100 ภายในมีขวดนม ของใช้สำหรับเด็ก สมุดฉีดวัคซีนของลูก และเงินสดประมาณ 200,000บาท นั่งรถแท็กซี่ สีฟ้า จากโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ไปลงแถวถนนท่าดินแดง คลองสาน เมื่อ 17.00 น. เบื้องต้น จส.100 แนะนำแล้วให้ไปแจ้งความ เพื่อจะได้ดูกล้องตรวจสอบหมายเลขทะเบียน
จากนั้นเมื่อเวลา 18.12น. นายสุรเดช สอนสุวรรณ ซึ่งเป็นเจ้าของอู่รถแท็กซี่ โทรมาที่จส.100 แจ้งแทนคนขับรถแท็กซี่ นายสุธีรพันธ์ ชื่นชม ที่ขับรถแท็กซี่ สีฟ้า ทล-4227กทม. พบกระเป๋าผ้า มีลายจุดๆ สีฟ้าเขียว มีเงินจำนวนหนึ่งเป็นแสน ของใช้เด็ก ผ้าอ้อม ขวดนม สมุดบันทึกประวัติเด็ก ชื่อ ด.ช.ณัฐดนัย ชัยยารังกิจรัตน์ บิดาชื่อนายสุรชัย ชัยยารังกิจรัตน์ มารดาชื่อนางจินดา ชัยยารังกิจรัตน์ โดยนายสุธีรพันธ์ ไปพบขณะทำความสะอาดรถ แล้วเจอกระเป๋า แต่จำไม่ได้ว่าเป็นของผู้โดยสารคนไหน เพราะรับผู้โดยสารหลายคน จึงแจ้งเข้ามาที่จส.100
จส.100 ตรวจสอบข้อมูล ทั้งเรื่องเอกสาร รายละเอียดและจำนวนเงินเป็นที่ชัดเจนจึงประสานทั้งสองฝ่ายนำของมาส่งคืนที่จส.100 เมื่อตรวจสอบจำนวนเงินมีทั้งสิ้น 2แสน 3 พัน 500บาท
นางจินดา เล่าให้ฟังว่า ทำใจแล้ว คิดว่าไม่ได้เงินคืนแน่อน นั่งรถมากับน้องและลูก ซึ่งกระเป๋าวางไว้ที่เบาะหลังด้านขวามือสุดเวลาลงเลยลืม และนึกได้อีกที เมื่อกำลังเดินทางเข้าซอยบ้าน และจำได้เพียงแค่ว่าเป็นรถแท็กซี่ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ด้วย ตอนนั้นรู้สึกสับสนมาก จึงปรึกษากับสามี นายสุรชัยๆ บอกว่าให้โทรหาจส.100เผื่อจะได้เงินคืน เหตุการณ์วันนี้ขอขอบคุณนายสุธีรพันธ์มาก ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่มีคุณค่ามาก ในส่วนตัวมีอาชีพขายผ้าห่มอยู่ที่โบ๊เบ๊ และพึ่งจะเปิดร้านวันแรกหลังปิดเทศกาลปีใหม่ และวันนี้ขายดีมากกว่าปกติด้วย ในช่วงที่ส่งมอบเงินคืน นายสุรชัย สามีเป็นผู้รับมอบ
ขณะที่นายสุธีรพันธ์ เล่าว่า หลังจากส่งนางจินดาเสร็จ ก็ไปส่งผู้โดยสารต่อที่วัดท่าพระ จากนั้นกลับเข้าบ้านแถวเพชรเกษม เมื่อถึงบ้านเปิดประตูรถ พบกระเป๋าใบดังกล่าว จึงไปปรึกษาเพื่อนบ้านว่าจะทำอย่างไร และช่วยกันเปิดกระเป๋าดู พบว่ามีเงินและรายละเอียดดังกล่าว และไม่กล้าแตะเงิน ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นของผู้โดยสารคนสุดท้ายจึงขับรถไปคืนปรากฎว่าผู้หญิงคนดังกล่าวบอกว่าไม่ใช่เจ้าของกระเป๋า จึงคิดว่าน่าจะใช่นางจินดาแน่อน แต่ไม่รู้จักบ้านเพราะจุดที่ส่งลงไม่ใช่บ้าน จึงขับรถไปที่อู่เพื่อขอให้เถ้าแก่ คือนายสุรเดช ช่วยเหลือโทรมาที่จส.100 ขอให้ตามหาเจ้าของกระเป๋า นายสุธีรพันธ์ เล่าว่า ขับรถมาเป็น10ปีไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนิ้ รู้สึกดีและภูมิใจมากที่ส่งของคืนให้กับเจ้าของ เนื่องจาก การประกอบอาชีพของทุกคนมีความยากลำบาก และสงสารเจ้าของ