ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2563

          ปัจจัยสำคัญที่ช่วยประคองเศรษฐกิจ นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เหมือนกับทั่วโลก รัฐบาลออกมาตรการช่วยเพิ่มกำลังซื้อได้ เช่น

-มาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ช้อปดีมีคืน และคนละครึ่ง เชื่อว่า จะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจปีนี้ได้

-ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ปรับตัวลดลง

-ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มมากขึ้น

          ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.2563 พบว่า ดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 50.2 มาอยู่ที่ระดับ 50.9 สะท้อนความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2563 ติดลบร้อยละ 7.7 หดตัวน้อยลงเพราะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าปรับตัวดีขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยในอนาคต

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่

-การระบาดของโควิด-19

-ค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ยังทรงตัวในระดับสูง

-ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่า

-สหรัฐฯตัด GSP สินค้าไทย 231 รายการ  

กังวลโควิด-19 ในสหรัฐฯ-ยุโรป ฉุดดาวโจนส์ร่วงกว่า 300 จุด-น้ำมันขยับลงเล็กน้อย  

          ความกังวลสถานการณ์การติดเชื้อโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ และ ยุโรป ทำให้ความเคลื่อนไหวในการลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันโลกปรับลดลง

-ดาวโจนส์ ลดลง 317.46 จุด หรือร้อยละ 1.08 ปิดที่ 29,080.17 จุด

-เอสแอนด์พี ลดลง 35.65 จุด หรือร้อยละ 1.00 ปิดที่ 3,537.01 จุด

-แนสแดค ลดลง 76.84 จุด หรือร้อยละ 0.65 ปิดที่ 11,709.59 จุด

          นักลงทุน กังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยุโรปกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนหลายชาติต้องออกข้อจำกัดทางสังคมรอบใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

         ในสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินกว่า 100,000 คน มาหลายวันและหลายสิบรัฐ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด ในนั้นรวมถึงนิวยอร์ก ซึ่งกลายเป็นรัฐล่าสุดที่ต้องยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเข้มงวดขึ้น

ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันขยับลงเล็กน้อย ปิดตลาดวันพฤหัสบดี 12 พ.ย.2563

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 ลดลง 33 เซ็นต์ ปิดที่ 41.12 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนม.ค.2564 ลดลง 27 เซ็นต์ ปิดที่ 43.53 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

          ความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ทำให้นักลงทุน ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทำให้ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 เพิ่มขึ้น 11.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,873.30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

คาด! อาจลงนามความร่วมมืออาร์เซ็ป 15 พ.ย. มีผลบังคับใช้กลางปี 2564 

          รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ผู้นำของประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) จาก 10 ชาติอาเซียน และคู่เจรจาการค้าอีก 6 ประเทศ คือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะมีการประชุมกันผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อสรุปผลประเด็นที่ค้างคา และหากสำเร็จ จะสามารถมีพิธีลงนามอาร์เซ็ปได้ตามกำหนดในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ทันที  ต้องรอผลการประชุมผู้นำครั้งนี้ก่อนจึงจะทราบว่าสมาชิกจะสามารถลงนามตามกำหนดทันวันที่ 15  พ.ย.นี้หรือไม่ หากสามารถลงนามได้ในเบื้องต้น ฝ่ายไทยจะมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นผู้ลงนาม

          หลังจากการลงนามแล้วสมาชิกแต่ละประเทศจะต้องเร่งดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายภายในประเทศ  เช่น ขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเพื่อให้สัตยาบันก่อนที่ความตกลงจะมีผลบังคับใช้ โดยไทยจะต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) และรัฐสภาก่อนให้สัตยาบัน คาดว่าข้อตกลงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ได้ประมาณกลางปี 2564 

         สำหรับอาร์เซ็ป เป็นความตกลงการค้าเสรีใหญ่สุดในโลก และเป็นตลาดการค้าที่ใหญ่ของไทย โดยข้อมูลเมื่อปี 2562 สมาชิก 16 ประเทศ มีประชากรรวมกันกว่า 3,500 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 48.1 ของประชากรโลก มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) รวมกันกว่า 28.55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 32.7 ของจีดีพีโลก  

ประธานเฟด ชี้ยังไม่สามารถประเมินผลบวกของการพัฒนาวัคซีนได้

          นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวถึง ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ถือเป็นข่าวดีในระยะกลาง แต่ก็ยังคงมีความท้าทายในระยะยาวและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการผลิต แจกจ่าย และประสิทธิภาพของวัคซีนในกลุ่มที่แตกต่างกัน และยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าหลังจากที่มีวัคซีนแล้วจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจอย่างไร

          ประธานเฟด เสวนาผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) นายพาวเวล กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวค่อนข้างช้า แต่ยังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่ง โดยความเสี่ยงหลักมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งการชะลอตัวเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หลังจากที่เศรษฐกิจดีดตัวขึ้นอย่างมากเมื่อเดือนพ.ค.และมิ.ย.2563

รมว.คลังเยอรมนี เตือนมาตรการล็อกดาวน์กระทบเศรษฐกิจ Q4

          นายโอลาฟ โชลซ์ รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่า การที่รัฐบาลเยอรมนีใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเดือนพ.ย.2563 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในไตรมาส 4 แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี นายโชลซ์ ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะมีวงเงินสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 10,000 หมื่นล้านยูโร หรือประมาณ 1.179 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ