สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างสำนักข่าว German Press Agency DPA ระบุว่า กระทรวงต่างประเทศเยอรมนีได้แถลงว่าจากการตรวจสอบ รัฐบาลเยอรมนี ไม่พบหลักฐานที่ชี้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กษัตริย์ของประเทศไทยทำผิดกฎหมายขณะทรงประทับในประเทศเยอรมนี
รายงานอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศที่แถลงตอบกระทู้ถามจากสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนีระบุว่า “รัฐบาลเยอรมันไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่ากษัตริย์ไทยทรงตัดสินพระทัยลักษณะดังกล่าวระหว่างประทับในเยอรมนี” นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศเยอรมนียังระบุด้วยว่า กระทรวง คาดหวังว่ากษัตริย์ไทยจะไม่ทรงตัดสินพระทัยใดๆที่ขัดต่อกฎหมายเยอรมนี, กฎหมายระหว่างประเทศ หรือหลักสิทธิมนุษยชนในระดับนานาชาติ
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ในช่วงเกือบ 4 เดือน ประเทศไทยเกิดการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้พยายามยื่นหนังสือถึงกษัตริย์โดยตรงเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน
บลูมเบิร์ก ระบุว่า กษัตริย์ไทยได้ตรัสเมื่อไม่นานมานี้ว่า ประเทศไทยเป็น “ดินแดนแห่งการประณีประนอม” และ ว่า “เรารักพวกเขาเหมือนกันหมด” อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็ยังคงไม่สามารถหยุดยั้งการประท้วงลงได้ ขณะที่ กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิเสธข้อเสนอเจรจาและประกาศที่จะเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อไปจนกว่าข้อเรียกร้องจะได้รับการตอบสนอง
รายงานข่าวระบุว่า ในเดือนตุลาคม มีผู้ประท้วงชาวไทยหลายพันคนที่ออกมาเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ได้ยื่นหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีในกรุงเทพมหานคร เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีตรวจสอบว่ากษัตริย์ไทยได้ใช้อำนาจอธิปไตยระหว่างเสด็จประทับที่เยอรมนี ขัดต่อกฎหมายของเยอรมนีหรือไม่