นายพรชัย ฐีระเวช รองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรอบเก็บตกเพิ่มเติม จำนวน 2.5 ล้านสิทธิ และมีผู้ลงทะเบียนเต็มไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ ระบบจะเร่งตรวจสอบและส่ง SMS แจ้งผลการลงทะเบียนภายใน 3 วัน สำหรับยอดลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและยอดผู้ที่ได้รับสิทธิแล้ว แต่ถูกตัดสิทธิจากการไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน จะมีการรวบรวมมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใหม่ต่อไป พร้อมย้ำว่าประชาชนที่ลงทะเบียนสำเร็จและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ขอให้รีบติดตั้งแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" รวมทั้งยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ยังตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อตรวจสอบและพิจารณาการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไขโครงการ โดยหากตรวจสอบพบว่า ร้านค้าหรือผู้ร่วมโครงการกระทำผิดจริง จะระงับการใช้แอปพลิเคชันและระงับการจ่ายเงินร้านค้าทันที พร้อมขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ โดยเฉพาะร้านค้าอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบประชาชน ส่วนประชาชนก็อย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่แอบอ้างว่าจะเปลี่ยนยอดเงินที่รัฐบาลจ่ายให้ครึ่งหนึ่งเป็นเงินสด โดยไม่มีการใช้จ่ายจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้กระทำความผิดและมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้
และขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน เพื่อรักษาระดับการบริโภคของประชาชน และกระจายรายได้ไปยังร้านค้ารายย่อยได้อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศกำลังค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้น โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นโครงการช้อปดีมีคืนหรือโครงการคนละครึ่ง เป็นปัจจัยบวกช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะไตรมาส 4 ประมาณ 100,000 ล้านบาท จากโครงการช้อปดีมีคืน 30,000-50,000 ล้านบาท และโครงการคนละครึ่งอีก 60,000 ล้านบาท ทำให้จีดีพีไตรมาส 4 ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ปีนี้คาดว่าจีดีพีจะติดลบประมาณร้อยละ 7-7.5 ซึ่งหากมีการต่อโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ทันที จะทำให้เศรษฐกิจไตรมาส 1 ปี 2564 สามารถเติบโตได้จากเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีก 60,000 ล้านบาท