ยุโรปซื้อวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ในราคาที่ถูกกว่าสหรัฐฯ

          สหภาพยุโรปทำข้อตกลงซื้อวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 300 ล้านโดส ในราคาที่ถูกกว่าสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนพัฒนาวัคซีนร่วมกับไบโอเอ็นเทค (BioNTech) จากเยอรมนี ซึ่งเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ย.) ได้แถลงความสำเร็จในการทดสอบระยะที่ 3 ว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าร้อยละ 90 ในการป้องกันโควิด-19

          ภายใต้ข้อตกลงของสหภาพยุโรป ระบุว่า ประเทศสมาชิก 27 ประเทศสามารถซื้อได้ 200 ล้านโดสและมีอาจซื้อเพิ่มได้อีก 100 ล้านโดส ในราคาเฉลี่ยน้อยกว่า 19.50 เหรียญสหรัฐ

          ขณะที่สหรัฐฯ จะจ่ายในอัตราเฉลี่ย 19.50 เหรียญสหรัฐต่อ 100 ล้านโดส และสามารถซื้อเพิ่มได้อีก 500 ล้านโดส ที่จะต้องเป็นการเจรจาแยกกันและยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับราคา

          สาเหตุที่ยุโรปจ่ายค่าวัคซีนถูกกว่าอเมริกาเพราะเมื่อเดือนมิถุนายน ธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรป ได้สนับสนุนเงินกู้ 100 ล้านยูโร แก่ไบโอเอ็นเทคเพื่อการพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากนั้นในเดือนกันยายนกระทรวงวิจัยของเยอรมนีสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก 375 ล้านยูโร

          ก่อนหน้านี้ไฟเซอร์ชี้แจงว่าปริมาณการสั่งจองวัคซีนเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อราคา รวมถึงการเป็นประเทศพัฒนาแล้ว หรือประเทศหรือภูมิภาค ที่ผู้ขายจะคิดราคาที่ต่างกันออกไป

          นางเออร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า ในเวลานี้ยุโรปมีข้อตกลงเรื่องการทดลองและการจัดหาวัคซีน 4 ฉบับแล้วคือ แอสทราเซเนกา ( AstraZeneca), ซาโนฟี (Sanofi) และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) และกำลังพูดคุยกับโมเดอนา (Moderna), เคียวแวค (CureVac) และโนวาแวค (Novavax) เพื่อให้มั่นใจว่ายุโรปจะมีวัคซีนมากเพียงพอสำหรับทุกคนในภูมิภาคที่ต้องการรับวัคซีน

...