ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2563

นายกฯต่อโครงการคนละครึ่ง

          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ท่องเที่ยว การค้า การลงทุนจึงต้องหามาตรการที่เหมาะสมควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อดึงศักยภาพของคนในประเทศ ในการฟื้นฟูและขับเคลื่อนประเทศไปสู่วิถีแห่งความยั่งยืน ช่วยเหลือภาคธุรกิจและสังคมให้ฟื้นจากวิกฤต

          และกล่าวถึงโครงการคนละครึ่งว่ามีผู้ให้ความสนใจลงทะเบียนโครงการจำนวนมาก ซึ่งเห็นว่าโครงการนี้ถ้าดีก็อาจมีต่อ

คลังต่อเฟส2 คนละครึ่ง

         ที่กระทรวงการคลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากผลการตอบรับที่ดีของโครงการคนละครึ่ง มีประชาชนสนใจลงทะเบียนจำนวนมาก โดยในการเปิดให้ลงทะเบียนประชาชนรอบเก็บตกเฟสแรกจำนวน 2,500,000 คน พบว่ามีการลงทะเบียนเต็มจำนวนอย่างรวดเร็ว และมียอดการใช้จ่ายภายในโครงการเป็นที่น่าพอใจ การใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายในร้านอาหาร แสดงให้เห็นว่าโครงการประสบความสำเร็จ กระตุ้นการใช้จ่ายได้จริง กระทรวงการคลังจึงเตรียมทำโครงการคนละครึ่งเฟส 2 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อให้มีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาโครงการว่าจะขยายอย่างไร อาจเป็นการเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิจาก 10 ล้านสิทธิ หรือการเพิ่มวงเงินในการใช้จ่าย รวมทั้งสิทธิประโยชน์ให้ผู้ที่ลงทะเบียนในระยะแรก เพื่อให้ประชาชนและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้รับผลประโยชน์มากที่สุด คาดว่าจะสรุปรายละเอียดโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ภายในเดือนธันวาคมนี้

          นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบนโยบายโครงการคนละครึ่งให้ชัดเจนแล้ว โดยต้องพิจารณา 2 ประเด็นสำคัญ คือ

1.วงเงินที่นำมาใช้ โครงการคนละครึ่งเฟส 2 จะใช้เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่เหลืออยู่ 250,000 ล้านบาท โดยกระทรวงต้องทำโครงการเพื่อเสนอให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาอีกครั้ง

2.ระยะเวลาที่ใช้ในโครงการจะแยกชัดเจนออกจากกัน ระหว่างคนละครึ่งเฟสแรก ที่ใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ตามกำหนดเดิม และเฟส 2 คาดว่าจะเริ่มประมาณวันที่ 1 มกราคม 2564 ซึ่งคนที่ลงทะเบียนในเฟสแรก อาจได้รับสิทธิใช้จ่ายเพิ่มโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ในเฟส 2 และหากไม่อยากเข้าร่วมสามารถแจ้งยกเลิกได้

อุตสาหกรรมต่อ 2 มาตรการอุ้มเอสเอ็มอี

          มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่ากรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) อยู่ระหว่างช่วยเหลือด้านสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ผ่านการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร และมีการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และนำเครื่องจักรมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับสถาบันการเงิน ล่าสุดปีงบประมาณ 2563 (ตุลาคม 2562-กันยายน 2563) สนับสนุนให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนรวม 1,157 ราย จำนวนเครื่องจักร 6,036 เครื่อง มูลค่า 100,000ล้านบาท สามารถเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงิน วงเงินจำนอง 80,000 ล้านบาท

          ปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม 2563-กันยายน 2564) คาดว่าจะมีผู้ประกอบการนำเครื่องจักรเข้ามาจดทะเบียนกว่า 1,300 ราย จำนวน 2,200 เครื่องจักร ซึ่งมีเงินลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรร้อยละ 10-15 จากวงเงินจำนองประมาณ 80,000 ล้านบาท นอกจากนี้ จะช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านสิทธิประโยชน์อีก 4 ด้าน คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษจากสถาบันการเงิน 18 แห่ง, เงินทุนหมุนเวียน, ได้รับการยกเว้นภาษี และ สิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ การยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยอยู่ระหว่างทำร่างประกาศกฎกระทรวง เพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรให้กับผู้ประกอบการ เป็นเวลา 1 ปี

สธ.ตรวจสอบผู้ใกล้ชิด ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มจากทหารเกาหลีติดโควิด

          จากกรณีที่ทหารเกาหลีติดเชื้อโควิด-19 หลังร่วมการฝึกผสมคอบร้าโกลด์ 21 ที่บ้านฉาง จ.ระยอง พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า มีนายทหารไทยและต่างชาติเข้าร่วมการฝึก 202 นาย แบ่งเป็น ทหารสหรัฐ 12 นาย เกาหลี 5 นาย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ประเทศละ 2 นาย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และอินเดียประเทศละ 1 นาย ส่วนที่เหลือ 177 นายเป็นทหารไทย โดยนายทหารต่างชาติทุกนายที่เข้ามาผ่านระบบควบคุมป้องกันโรค ทั้งการตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง กักตัว 14 วัน มีการตรวจหาเชื้อแล้ว 2 ครั้ง ผลพบว่าทหารที่มาทุกรายไม่มีเชื้อโควิด-19 ขณะที่เพื่อนทหารชาวเกาหลีที่นอนร่วมห้องผลตรวจเป็นลบ และไม่ได้ออกไปนอกพื้นที่ 

          ทหารไทยที่เข้าร่วมการฝึกนั้นได้กักตัวและตรวจหาเชื้อ อยู่ระหว่างรอผล ส่วนนายทหารต่างชาติจะประสานผ่านกฎอนามัยระหว่างประเทศเพื่อแจ้งไปยังประเทศต้นทาง

....