สหภาพยุโรปเพิ่มการป้องกันพรมแดนสกัดกลุ่มก่อการร้าย

11 พฤศจิกายน 2563, 10:12น.


          ผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป มีความเห็นพ้องให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันพื้นที่ชายแดน หลังจากที่มีเหตุก่อการร้ายโจมตีเป้าหมายภายในประเทศสมาชิกหลายครั้ง ทั้งให้คำมั่นว่าจะปกป้องเขตเชงเก้นซึ่งเป็นเขตการเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าระหว่างประเทศ และให้เพิ่มการป้องกันพรมแดนรอบนอกที่ติดต่อกับประเทศนอกกลุ่ม



          ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้เรียกประชุมหลังจากที่มีเหตุก่อการร้ายในฝรั่งเศสและออสเตรียเรียกร้องให้มีการตอบสนองแบบรวดเร็วและประสานงานกันเพื่อป้องกันการโจมตี และประณามกลุ่มก่อการร้ายใช้ช่องทางการขอลี้ภัยในยุโรป ส่งผู้ก่อการร้ายเข้ามาในพื้นที่ โดยพบว่ามีการใช้สิทธิลี้ภัยไปในทางที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในทุกประเทศ ทั้งจากกลุ่มอาชญากรค้ามนุษย์ และผู้คนจากประเทศที่ไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม จึงเรียกร้องให้สมาชิกมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ดีขึ้น เพราะช่องว่างในการป้องกันชายแดนคือความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของสมาชิกทุกประเทศ



          นายกรัฐมนตรีมาร์ค รุตต์ แห่งเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า การปกป้องเขตเชงเก้นจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมีการให้ความสำคัญกับการป้องกันพรมแดนภายนอกอย่างเร่งด่วน เนเธอร์แลนด์สนับสนุนให้มีการเสริมความเข้มแข็งของหน่วยฟรอนท์เท็กซ์ (Frontex) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ช่วยเหลือประเทศในสหภาพยุโรปและสมาชิกจัดการพรมแดนภายนอก



          ด้านนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี แสดงความเห็นว่า งานเร่งด่วนและสำคัญอย่างยิ่งในเวลานี้คือการตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้าและออกเขตเชงเก้น



          นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน คูร์ซ ของออสเตรีย ร่วมด้วยนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ยังแสดงความเห็นพ้องเรื่องการป้องกันพรมแดนภายนอก โดยนายกรัฐมนตรีออสเตรียกล่าวว่า อันตรายจากการโจมตีจะอยู่กับยุโรปอย่างถาวร เนื่องจากผู้ก่อการร้ายหลายพันคนที่รอดชีวิตจากการสู้รบในซีเรียและอิรักเดินทางมายุโรป บุคคลเหล่านี้เป็นเหมือนกับระเบิดเวลา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเสริมสร้างความมั่นคงภายในยุโรป



....

ข่าวทั้งหมด

X