หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเป็นห่วงการชุมนุมที่อาจจะมีการเผชิญหน้า เตรียมพร้อมกระทบกระทั่งกัน คิดว่า ไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรือเป็นประโยชน์ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้เข้าข้างใครหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แม้แต่คนที่กระทำผิดกฏหมาย แต่รัฐบาลก็ยังดูแล การมีความเห็นที่แตกต่างในสังคม ถือเป็นเรื่องปกติ เป็นวิถีประชาธิปไตย แต่อย่าฝ่าฝืนกฏหมายจนเลยเถิด อย่างกรณีทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ถือเป็นเรื่องไม่สมควร เพราะนักท่องเที่ยวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร แม้ว่าจะมีการโต้เถียงกัน แต่การไปทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว ก็ทำให้ประเทศเสียภาพลักษณ์
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลและฝ่ายกฏหมาย พยายามอดทนอดกลั้นหลายเรื่อง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ หากไม่ปฏิบัติก็จะถือว่าเข้าข่ายผิดกฏหมาย จึงขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย ขณะนี้หลายเรื่องกำลังอยู่ในขั้นตอน อยู่ในกระบวนการของรัฐสภา หากไม่ยอมรับกันเลย ประเทศก็ไม่รู้จะไปทางไหน
ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีความเป็นห่วงว่า จะเป็นการซื้อเวลาไปเรื่อยๆ นายกรัฐมนตรี ไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้ โดยระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร และสมาชิกวุฒิสภา กำลังอยู่ในกระบวนการตามขั้นตอนรัฐสภา จึงขอไม่ก้าวล่วงในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ทุกคนมีความคิด มีความรู้ ดังนั้นต้องเคารพในความคิดเห็นและเคารพในกระบวนการ
ส่วนการประชุม RCEP ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ในวันที่ 12-15 พ.ย.นี้ นายกรัฐมนตรี คาดหวังว่า จะมีความเห็นชอบและเกิดความตกลงร่วมมือกันในหลายด้าน เพราะไทยมีบทบาทสำคัญ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่สมัยเป็นประธาน RCEP จนมีความก้าวหน้า มีความเห็นชอบในข้อตกลงร่วมกันหลายด้านไปแล้ว
กรีซเผชิญไฟป่ารุนแรงท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด
รูบิโอหารือมาริษ เรียกร้องลดความตึงเครียดชายแดน หยุดยิงทันที
จอร์แดนและยูเออีเร่งส่งความช่วยเหลือฉนวนกาซา ระหว่างอิสราเอลหยุดยิงในบางพื้นที่
ข่าวทั้งหมด
