ดีเกินคาด! ไฟเซอร์ แถลงข่าวดีผลทดลองวัคซีนโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากกว่าร้อยละ 90

          การผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ล่าสุด ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนีแถลงผลการทดลองให้ความมั่นใจว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่าร้อยละ90  ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานบริษัทไฟเซอร์ย้ำว่า นับเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์

          ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์คาดหวังว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะมีประสิทธิภาพอย่างน้อยร้อยละ 75 ขณะที่ นพ.แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว เคยกล่าวว่า หากวัคซีนมีประสิทธิภาพร้อยละ 50-60 ถือว่ายอมรับได้

          ไฟเซอร์จะยื่นจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ในช่วงสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1.3 พันล้านโดสในปีหน้า

          ปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาทองคำโคเม็กซ์ปรับตัวลดลงกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่าร้อยละ 2 ใกล้หลุดระดับ 1,910 ดอลลาร์สหรัฐฯในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีรายงานความคืบหน้าครั้งใหญ่ในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

          โดยราคาซื้อขายทองคำเมื่อเวลา 20.53 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.2563 ร่วงลง 74.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ร้อยละ 3.84  สู่ระดับ 1,876.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์

          สวนทางกับราคาน้ำมันในตลาดเวสต์เท็กซัส ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 6 เดือน ตอบรับการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียแสดงท่าทีสนับสนุนการปรับนโยบายการผลิตน้ำมัน หากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ให้ความเห็นชอบ ท่ามกลางปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในตลาด ขณะที่อุปสงค์ยังคงอ่อนแอ  เมื่อเวลา 20.50 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค.2563 ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 3.85 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือร้อยละ 10.37 สู่ระดับ 40.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

          ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือ ตลาดลอนดอน ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือร้อยละ 9.25 อยู่ที่ 43.10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

          เช่นเดียวกับ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ฟิวเจอร์ พุ่งขึ้นกว่า 1,625.00 จุด แตะระดับ 29,829.00 จุด ในระหว่างการซื้อขายพุ่งถึง 30,000 จุด