ชาวอิสราเอลประท้วง ‘เนทันยาฮู’ พร้อมยินดีผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ

         ชาวอิสราเอลจำนวนมากออกมาร่วมแสดงความยินดีต่อชัยชนะของนายโจ ไบเดน และนางกมลา แฮร์ริส ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมไปกับการประท้วงนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ที่เยรูซาเล็ม

          กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านนายเนทันยาฮูได้จัดให้มีการชุมนุมทุกสัปดาห์มาตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนเพื่อเรียกร้องให้ลาออก ขณะที่เขาถูกพิจารณาคดีในข้อหาทุจริตและถูกกล่าวหาว่าจัดการโควิด-19 ผิดพลาด ผู้ประท้วงหลายคนระบุว่ายังไม่รู้ว่านายไบเดนจะดีหรือไม่ดีต่ออิสราเอล แต่ก็หวังว่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะสิ่งที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำในระหว่างอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่ออิสราเอล เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูมีความใกล้ชิดกับนายทรัมป์

          นายเนทันยาฮูพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯแต่ก็มักถูกมองว่าโน้มเอียงไปทางรีพับลิกันมากกว่า ซึ่งในการที่นายทรัมป์ผลักดันให้นครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และยอมรับการผนวกดินแดนที่ราบสูงโกลัน รวมถึงการขยายการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในพื้นที่ยึดครองเวสต์แบงก์ ทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มสูงขึ้น

          นายไบเดน ซึ่งมีนโยบายสนับสนุนอิสราเอลเหมือนกับผู้นำสหรัฐฯ คนอื่นๆ ระบุว่า เขาต้องการให้อิสราเอลระงับการผนวกรวมดินแดน และสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาสองรัฐในความขัดแย้งอันยาวนานระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ แต่จะไม่ย้ายสถานทูตสหรัฐฯออกจากเยรูซาเล็มกลับไปที่เทลอาวีฟ

          ชาวอิสราเอลจำนวนมากมีความเห็นว่ากระบวนการสร้างสันติภาพและการเจรจากับชาวปาเลสไตน์ ซึ่งแนวทางที่สำคัญ และพวกเขาต้องการสหรัฐอเมริกาที่มีความเป็นกลาง

          ทั้งนี้ ผู้นำปาเลสไตน์ระงับการติดต่อกับฝ่ายบริหารของนายทรัมป์ในปี 2560 หลังจากปิดสำนักงาน PLO ในวอชิงตัน และยอมรับว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และในช่วงต้นปีนี้ปาเลสไตน์ได้ตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับอิสราเอลและสหรัฐฯ เนื่องจากฝ่ายบริหารของนายทรัมป์ยกเลิกแผนสันติภาพในตะวันออกกลาง ทั้งสนับสนุนอิสราเอลผนวกดินแดนมากถึงร้อยละ 30 ของเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของปาเลสไตน์

...