‘โจ ไบเดน’ คือประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป หลังชนะในเพนซิลเวเนีย

08 พฤศจิกายน 2563, 08:17น.


          นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 46 หลังจากที่ได้รับชัยชนะในรัฐเพนซิลเวเนีย (20 เสียง) และรัฐเนวาดา (6 เสียง) ทำให้มีเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 279 เสียง ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกันมี 214 เสียง โดยนายไบเดนประกาศว่าจะต่อสู้กับโควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ และความแตกแยก



          หลังจากที่ทราบว่าได้รับจำนวนคณะผู้เลือกตั้งเพิ่มอีก 20 เสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย หลังจากที่ต้องนับคะแนนนาน 4 วันนับจากวันเลือกตั้งเมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) นายไบเดน ทวีตข้อความว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติและน้อมรับความไว้วางใจที่คนอเมริกันมอบให้เขาเป็นประธานาธิบดีและนางกมลา แฮร์ริส เป็นรองประธานาธิบดีในห้วงเวลาที่ชาวอเมริกันกำลังเผชิญกับอุปสรรคที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเมื่อการรณรงค์หาเสียงสิ้นสุดลงแล้วก็ถึงเวลาที่จะนำความโกรธและถ้อยคำโต้เถียงที่รุนแรงไว้เบื้องหลัง เพื่อรวมกันเป็นชาติ ถึงเวลาที่อเมริกาต้องรวมตัวกันเพื่อฟื้นฟูประเทศ



          เมื่อนายไบเดน เข้าสู่ทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคม 2564 เขาจะเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดที่ดำรงตำแหน่งคืออายุ 78 ปี ขณะที่มีภารกิจที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้า



          อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ซึ่งอ้างว่ามีการฉ้อโกงการเลือกตั้งหลายครั้งโดยไม่เคยแสดงหลักฐานใดๆ ก็ออกแถลงการณ์อีกครั้ง โดยกล่าวหานายไบเดนว่ารีบสวมรอยเป็นผู้ชนะ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่จบ



          ในกรณีของรัฐเนวาดา นายทรัมป์พยายามรณรงค์หาเสียงอย่างหนักเพราะเป็นรัฐที่นางฮิลลารี คลินตันของเดโมแครตพ่ายไปอย่างหวุดหวิดในการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 ทำให้พรรครีพับลิกันมีความเห็นว่าควรเพิ่มการรณรงค์เพื่อขยายฐานเสียง อย่างไรก็ตามโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวของเนวาดา กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความนิยมรีพับลิกันลดลง นอกจากนี้ เนวาดายังมีชุมชนเชื้อสายสเปนขนาดใหญ่ซึ่งพวกเขามีความชื่นชอบเดโมแครตมากกว่า



          หลังจากที่กรรมการเลือกตั้งสหรัฐฯ ประกาศคะแนนอีก 2 รัฐคือเพนซิลเวเนียและเนวาดา กลุ่มผู้สนับสนุนเดโมแครตจำนวนมากต่างออกมาแสดงความยินดีต่อชัยชนะ ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนรีพับลิกันประมาณ 200 คนรวมตัวกันใกล้อาคารรัฐสภาของรัฐในแลนซิง รัฐมิชิแกนเพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการนับบัตรลงคะแนนอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องให้นายทรัมป์คัดเลือกทีมกฎหมายที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เพื่อเตรียมการฟ้องร้อง



          นายโจ ไบเดน ใช้เวลาครึ่งศตวรรษในฐานะวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ และรองประธานาธิบดีในรัฐบาลของนายบารัค โอบามา มีงานหนักที่รออยู่ข้างหน้าทั้งโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจ การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและการทำหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งนายไบเดนเปิดเผยว่า งานอันดับแรกของเขาคือการจัดการกับโควิด-19 พร้อมไปกับการฟื้นฟูประเทศจากโรคระบาด โดยสัญญาว่าจะปรับปรุงการเข้าถึงการทดสอบ และการปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ นอกจากนี้ยังให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อทำเนียบขาว หลังจากที่ตลอดห้วงเวลาที่นายทรัมป์อยู่ในตำแหน่ง เขามักแสดงความเห็นยกย่องผู้นำต่างประเทศที่มีนโยบายเผด็จการ และสังคมนิยม ขณะที่มีการดูหมิ่นมิตรประเทศของสหรัฐฯทั่วโลก, ปฏิเสธที่จะกล่าวตำหนิกลุ่มเหยียดเชื้อชาติ และตั้งข้อสงสัยในความชอบธรรมของระบบการเลือกตั้งของสหรัฐฯ



....

ข่าวทั้งหมด

X