สถานการณ์ของโควิด-19 ในทวีปยุโรปยังมีความรุนแรงโดยมีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 12 ล้านคนและผู้เสียชีวิตมากกว่า 300,000 ราย ขณะที่อิตาลี และกรีซต้องกลับมาใช้มาตรการปิดกั้นที่มีความเข้มงวด ส่วนเมืองลิเวอร์พูลในสหราชอาณาจักรจัดการทดสอบโควิด-19 ทั่วเมืองเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.)
โดยในวันศุกร์ประเทศต่างๆ ในยุโรปมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 300,688 ราย โดยจำนวน 2 ใน 3 อยู่ในสหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส สเปนและรัสเซีย
ทางการอิตาลีมีคำสั่งให้ใช้มาตรการปิดกั้นในเมืองใหญ่หลายแห่งซึ่งมีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก นายกเทศมนตรีเมืองเบอร์กาโมซึ่งเป็นศูนย์กลางของวิกฤตโควิด-19 เมื่อช่วงต้นปีและกลับมามีการระบาดที่รุนแรงอีกครั้งกล่าวว่ามีความเหนื่อยล้าและความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นเมื่อมีการชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการปิดกั้นเพื่อควบคุมโรคระบาด ขณะที่แพทย์อิตาลี ชี้ว่า หลังจากที่ทางการอิตาลีประกาศยุติมาตรการปิดกั้นในเดือนพฤษภาคม ทางการอิตาลีและบุคลากรทางการแพทย์ก็พยายามรณรงค์ให้ประชาชนมีการป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เป็นผลและทำให้สถานการณ์กลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง
ส่วนสหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,200 รายและมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 120,000 คนในช่วงระหว่างวันพุธ (4 พ.ย.) ถึงวันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) เป็นความสูญเสียที่ตรงข้ามกับคำกล่าวของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯซึ่งรอดชีวิตจากโควิด-19 ในเดือนตุลาคม ที่ยืนยันว่าไวรัสจะหายไป
....