ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2563
เริ่มอารักขาว่าที่ผู้นำสหรัฐฯคนใหม่
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า สำนักงานตำรวจลับสหรัฐฯเรียกให้เอเยนต์ของทางหน่วยให้ไปทำหน้าที่อารักขาอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (6) และอาจจะมีการแถลงใหญ่ในวันศุกร์ (6) ภายในศูนย์การประชุมริเวอร์ฟรอนต์ (Riverfront convention center) เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ การให้อารักขานนายไบเดนที่จะเริ่มในวันศุกร์ (6) แต่ยังไม่ใช่การให้การอารักขาแบบเต็มรูปแบบที่ให้กับผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายน สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ระบุว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 264 คะแนน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันได้ 214 คะแนน นายไบเดนต้องการอีกเพียง 6 คะแนนจะชนะการเลือกตั้งคือ ได้ 270 คะแนนจากทั้งหมด 538 คะแนน ขณะที่นายทรัมป์จะต้องคว้าอีก 56 คะแนนจึงจะชนะการเลือกตั้ง ขณะนี้ยังเหลือคะแนนคณะผู้เลือกตั้งที่ยังนับไม่เสร็จรวม 68 คะแนน
ส่วนผลการนับคะแนนล่าสุดใน 5 รัฐสวิงสเตทที่ทั้งสองพรรคมีคะแนนคู่คี่คือ รัฐจอร์เจีย(16 คะแนน),เพนซิลเวเนีย (20 คะแนน),อริโซนา (11 คะแนน) รัฐเนวาดา(6 คะแนน) และรัฐนอร์ทแคโรไลนา(15 คะแนน) มีดังนี้
-รัฐจอร์เจีย นับเสร็จแล้วร้อยละ 99 มีคะแนนเท่ากันคือ ร้อยละ 49.4 แต่นายไบเดนมีคะแนนนำเล็กน้อยไม่ถึง 2,000 คะแนน เจ้าหน้าที่เลือกตั้งระบุว่ายังเหลือบัตรที่ยังไม่นับอีก 15,000 ใบ
-รัฐเพนซิลเวเนีย นับเสร็จแล้วร้อยละ 97 นายทรัมป์ นำร้อยละ 49.6 นายไบเดน ได้ร้อยละ 49.3
-รัฐอริโซนา นับเสร็จแล้วร้อยละ 90 นายไบเดน นำร้อยละ 50.1 นายทรัมป์ ได้ร้อยละ 48.5
-รัฐเนวาดา นับเสร็จแล้วร้อยละ 84 นายไบเดน นำร้อยละ 49.4 นายทรัมป์ได้ร้อยละ 48.5
-รัฐนอร์ทแคโรไลนา นับเสร็จแล้วร้อยละ 94 นายทรัมป์ นำร้อยละ 50.1 นายไบเดน ร้อยละ 48.7
สหราชอาณาจักรถอดเดนมาร์ก ออกจากประเทศจับคู่ท่องเที่ยว หลังพบมิงค์แพร่เชื้อโควิด-19
ทางการอังกฤษประกาศถอดรายชื่อเดนมาร์กออกจากนโยบายจับคู่ท่องเที่ยวกับประเทศที่มีความมั่นใจในความปลอดภัยของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังพบตัวมิงค์ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ในฟาร์มหลายแห่งของเดนมาร์ก จากแถลงการณ์ของนายแกรนต์ แชปส์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากเดนมาร์กตั้งแต่เวลา 04.00 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายนเป็นต้นไปจะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน และว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อชาวอังกฤษที่อยู่ในเดนมาร์กและสหราชอาณาจักร แต่ทางการต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องประเทศและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในอังกฤษ
ขณะที่ทางการเดนมาร์กประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ หลังพบการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ในตัวมิงค์ที่ฟาร์มหลายแห่ง และตัดสินใจฆ่าตัวมิงค์กว่า 17 ล้านตัวทั่วประเทศ นอกจากนี้ ทางการอังกฤษยังได้ถอดรายชื่อสวีเดนและเยอรมนีออกจากนโยบายจับคู่ท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน
หุ้นญี่ปุ่นพุ่งสูงสุดในรอบ 29 ปี
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้แตะระดับสูงสุดในรอบ 29 ปี โดยได้แรงหนุนจาก ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ และยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น ดัชนีนิกเกอิ ปิดตลาดที่ระดับ 24,325.23 จุด เพิ่มขึ้น 219.95 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังคงรอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดวันนี้ที่ 25,712.97 จุด เพิ่มขึ้น 17.05 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,260.08 จุด ลดลง 4.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,524.08 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นมาแรงตอบรับนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต มีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งดัชนีขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,264 จุด แต่ก็ไม่สามารถผ่านได้ ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมา ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะบวก สวนทางตลาดในยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ที่เทรดบ่ายนี้ติดลบ จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนทำให้หลายประเทศต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ล็อกดาวน์ไปถึงต้นเดือนธ.ค. ทำให้ต้องติดตามดูว่าจะกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจหรือไม่
สำหรับการชุมนุมทางการเมืองในประเทศแม้จะยังมีอยู่แต่ก็คงจะไม่รุนแรง เนื่องจากยังไม่มีประเด็นใหม่เพิ่ม และนักลงทุนก็รู้สึกว่ามีทางออกที่จะเลี่ยงการเผชิญหน้ากันได้
เปิดลงทะเบียน ‘คนละครึ่ง’ รอบ 2 วันที่ 11 พ.ย.นี้ หลังมีผู้สละสิทธิ์แล้วกว่า 1 ล้านคน
นายพรชัย ฐีระเวช รองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการที่ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ครบ 10 ล้านคนแล้ว เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ล่าสุดปรากฏว่ามีผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ และไม่เริ่มใช้สิทธิ์ภายในกำหนด 14 วัน จึงได้มีการตัดสิทธิ์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนเป็นต้นมาแล้ว จำนวน 1,967,046 สิทธิ์ โดยยอดลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและสิทธิ์ที่ถูกตัดในแต่ละวัน จะถูกรวบรวมนำมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งจะเริ่มเปิดให้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ คนละครึ่ง จนกว่าจะครบจำนวน ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งมาก่อน และผู้ประสงค์จะใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง จะไม่สามารถใช้สิทธิ์มาตรการช้อปดีมีคืน
ส่วนการลงทะเบียนของร้านค้า ล่าสุดมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.23 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิ์แล้วจำนวน 7,161,488 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 7,629 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 3,888 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 3,741 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 216 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่
ประธานรัฐสภา เตือนอย่ามองผู้สูงอายุในทางลบ
การเตรียมการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ยังไม่อยากแสดงความคิดเห็นมาก เพราะไม่อยากตกเป็นเหยื่อทางวาจาของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมเตือนนายสิระ ต้องให้เกียรติผู้สูงอายุด้วย ถึงมีอายุมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่ทราบอะไร ทุกคนล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ และเจอปัญหามาก่อน
ส่วนจะเดินทางไปพบหรือขอคำแนะนำจากใครเพิ่มเติมบ้างนั้น ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะไปวันไหน เมื่อไหร่ เพราะงานมาก ต้องรอมีเวลาว่างก่อน การเข้าพบกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ได้เพื่อประสานงานมาเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ เพียงอย่างเดียวแต่เป็นการขอคำแนะนำศึกษาวิธีการแก้ปัญหา ทั้งเรื่องที่ทำแล้วได้ผล และไม่ได้ผล แต่เชื่อว่ามีประโยชน์ อีกทั้งผู้ใหญ่บางคนไม่สบายใจ จึงต้องเป็นการหารือกันภายใน แต่ทุกคนเห็นด้วยในการแก้ปัญหาส่วนรวม และมีเจตนาดีต่อบ้านเมือง ยืนยันได้ว่าไม่ท้อ
นายชวน กล่าวว่า ไม่รู้สึกท้อและไม่มีปัญหาส่วนตัวกับใคร ไม่ได้โกรธใคร พร้อมรับคำแนะนำ แต่ ขอเตือนว่าอย่ามองผู้สูงอายุในทางลบ คนผ่านชีวิตมา ถึงขั้นที่เปรียบเทียบว่าดองเค็มได้นั้น ต้องระวัง คนพูดจะไปดองในฟอร์มาลีน ต้องระวังร่างกายด้วย
ประธานรัฐสภา กล่าวว่า มีอาสาสมัครอยากเป็นกรรมการเยอะแต่ยังไม่แน่ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการหรือไม่ แต่สิ่งที่สถาบันพระปกเกล้าเสนอเป็นเพียงการพูดคุยกันทำได้หรือไม่ต้องพิจารณากันต่อ และต้องไม่รีบร้อน เรื่องการมองอนาคต แต่เรื่องเฉพาะหน้า ให้สถาบันพระปกเกล้าดูเป็นพิเศษ โดยแยกประเด็นอนาคตกับปัญหาเฉพาะหน้าออกจากกัน
ตร.วางแผนจราจรรับชุมนุมสุดสัปดาห์นี้ ห้ามชุมนุมในเขตพระราชฐานรัศมี 150 เมตรโดยเด็ดขาด
การดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่าสามารถชุมนุมได้ตามสิทธิแต่ห้ามชุมนุมในเขตพระราชฐานรัศมี 150 เมตร โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด
สำหรับการชุมนุมตลอดทั้ง 3 วัน หลังจากนี้ ยังไม่มีการขออนุญาตในการใช้พื้นที่ชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ ส่วนวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ และจะมีการเคลื่อนขบวน ตำรวจจะใช้แผนการชุมนุม 63 ดูแลการชุมนุมเหมือนการชุมนุมทุกครั้งมั่นใจว่าจะดูแลและ รักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยได้ โดยมีการแบ่งพื้นที่ดูแล เป็น 3 ส่วน โซนแรก สนามหลวง พื้นที่โดยรอบ จนถึงสะพานผ่านฟ้า โซนที่ 2 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมาจนกระทั่งถึงสะพานผ่านฟ้า และโซนที่ 3 รอบทำเนียบรัฐบาล สะพานมัฆวาน บริเวณแยกจปร. นอกจากนี้จะมีชุดเคลื่อนที่เร็วอีก 12 กองร้อย บช.น. มีความมั่นใจดูแลรักษาความปลอดภัย
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงกรณีที่ทวิตเตอร์ บัญชี Freeyouth และ แกนนำอีก 2 บัญชี ถูกปิดชั่วคราว ยืนยันการเฝ้าระวังการใช้โซเชียลมีเดีย เป็นหน้าที่ของหลายหน่วยงานไม่ใช่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่หากพบการใช้สื่อโซเชียลในทางที่ผิด ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติและไม่ได้ใช้ 2 มาตรฐาน เป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมายตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเท่านั้น
สำหรับการชุมนุม 2 จุดในวันเสาร์ที่ 7 พ.ย. มีการนัดรวมตัวแยกสามย่าน คาดว่าอาจมีกิจกรรมเคลื่อนที่ไปที่ถนนสีลม จากบทเรียนที่ผ่านมา คาดว่า น่ากระทบถนนพระราม 4 ทั้งขาเข้า-ขาออก ถ.พญาไท หน้าสามย่านมิตรทาวน์ จามจุรีสแควร์ และอาจกระทบไปจนถึงถนนสี่พระยา หน้าวัดลำโพง ดังนั้น ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยเฉพาะกิจกรรมนี้อาจมีการเคลื่อนที่
สำหรับวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. มีการรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งการข่าวอาจมีการเคลื่อนที่ของผู้ชุมนุม คาดว่าจะเกิดผลกระทบถนนราชดำเนินกลาง แยกคอกวัวไปถึงแยกป้อมเผด็จ ไปจนถึงถนนดินสอ-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-แยกวันชาติ แยกคอกวัว ถนนตะนาว ในส่วนฝั่งกทม.และวัดบวร และจุดนี้ถ้ามีการเคลื่อนที่ โดยคาดว่า จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปแยกผ่านฟ้า แยกจปร. ถนนนครสวรรค์
ยังทำงานอยู่ สอบสวนเหตุเก้งเผือกสวนสัตว์สงขลาตายและหาย
การติดตามการหายและตายของเก้งเผือกสวนสัตว์สงขลา นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบนำโดยนายเฉลิมชัย ปาปะทา ผู้ตรวจราชการกระทรวง ทส. ได้ส่งข้อมูลจากการลงพื้นที่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นมีการสอบพยานเจ้าหน้าที่ไปหลายปากแล้ว โดยมีการเก็บตัวอย่างเลือดของพ่อแม่เก้งเผือกในสวนสัตว์สงขลาไปส่งตรวจที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยืนยันการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบยังอยู่ในกรอบ 45 วัน ไม่ล่าช้า โดยทั้งหมดต้องมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กำชับไว้ หากพบใครมีความผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนในวันนี้ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมยินดีกับความสำเร็จของสวนสัตว์นครราชสีมา ต้อนรับสมาชิกใหม่ ขยายพันธุ์ลูกเก้งเผือกตัวใหม่เพิ่มอีกหนึ่งตัว นับเป็นลูกเก้งเผือกตัวที่ 2 ต่อจากลูกเก้งเผือกตัวแรกที่เกิดมาเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563