สภาพการจราจรบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าววันศุกร์แบบนี้ พบว่า ฝั่งขาเข้ารถมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ค่อนข้างติดขัด ส่วนฝั่งกลับกันรถยังเคลื่อนตัวได้ดี แต่จุดที่เป็นปัญหาและมีประชาชนร้องเรียนมาก คือบริเวณป้ายรถเมล์ฝั่งหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เพราะมักมีรถแท็กซี่มาจอดแช่รอผู้โดยสาร ทำให้รถโดยสารประจำทางเข้าป้ายไม่ได้ รวมทั้งรถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ทางกรมการขนส่งทางบกจึงลงพื้นที่ช่วยอำนวยความสะดวกและกวดขันรถโดยสารที่กระทำผิดกฎหมาย
นายสมยศ แดงรุ่งเรือง เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า วันนี้นำเจ้าหน้าที่มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และกวดขันรถแท็กซี่ไม่ให้ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือจอดแช่ที่ป้ายรถประจำทาง โดยจัดให้ไปจอดรอผู้โดยสารห่างจากป้ายไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งคนขับแท็กซี่ก็ให้ความร่วมมือดี
ส่วนการกวดขันจับกุมรถโดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมาย วันนี้พบถึง 3 ราย คือ นำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) มาขับขี่รับ-ส่งผู้โดยสาร มี 2 ราย และรายที่สามเป็นรถตู้โดยสารที่ไม่ติดเครื่องหมายผู้ประกอบการวิ่งรถ หรือสติ๊กเกอร์บอกสายและเส้นทางวิ่งที่กฎหมายบังคับให้ต้องติดที่ข้างรถทั้ง 2 ฝั่ง และที่ด้านหน้ารถ มีโทษปรับไม่เกิน 5,000บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องย้ำให้ผู้ประกอบการอย่าละเลยในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา เคยมีกรณีไม่ติดเครื่องหมายบอกเส้นทางวิ่งให้ชัดเจน แล้วไปวิ่งในพื้นที่ที่รถตู้โดยสารคันอื่นที่ขออนุญาตถูกต้องหรือวิ่งนอกเส้นทางที่ขออนุญาตไว้ ทำให้เกิดปัญหาร้องเรียนกระทบกระทั่งกัน รวมทั้งไม่ปลอดภัยกับผู้โดยสารด้วย ซึ่งกรณีที่พบว่ารถตู้โดยสารวิ่งออกนอกเส้นทางที่ขออนุญาตไว้ จะมีโทษปรับสูงถึง 50,000บาท
เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ระบุว่า จะเน้นการตักเตือนให้ผู้กระทำผิดที่ไม่รุนแรงและไม่เสี่ยงเป็นอันตรายกับผู้อื่นไปปรับปรุงรถให้ถูกต้อง เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ก็เห็นใจที่บางคนมีเหตุจำเป็นจริงๆ แต่หากคันไหนกระทำผิดที่เสี่ยงเป็นอันตรายกับผู้โดยสารหรือผู้ขับขี่รายอื่นๆบนท้องถนน ก็จำเป็นต้องออกใบคำสั่งให้ไปจ่ายค่าปรับที่กรมการขนส่งทางบก
เจ้าหน้าที่ยังฝากถึงผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ถูกประชาชนร้องเรียน หากเจ้าหน้าที่เรียกให้มาแสดงตัวขอให้มาตามที่นัดเพื่อมาชี้แจง เพราะไม่เช่นนั้นจะถือว่ากระทำผิดและจะถูกบันทึกข้อมูลไว้ในระบบ เมื่อมาต่อภาษีประจำปีจะต้องเสียค่าปรับตามระเบียบ