แล้งนี้ น้ำต้นทุนลุ่มน้ำเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์น้อย ทุกฝ่ายช่วยกันประหยัดน้ำ
สถานการณ์น้ำต้นทุน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา หลังสิ้นสุดฤดูฝนปริมาณน้ำยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อย แต่น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคมีเพียงพอ กรมชลประทาน ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันประหยัดน้ำให้มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ 447 แห่ง ในวันที่ 5 พ.ย. 2563
-ปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 47,907 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯ
-ปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 23,977 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯรวมกัน
-ปริมาณน้ำต้นทุนจาก 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 12,525 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 50 ของความจุอ่างฯ
-ปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 5,829 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 32 ของความจุอ่างฯ
ภาพรวมปริมาณน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยายังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างน้อย ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด
CR:กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เวียดนาม ยกเลิกเที่ยวบินหลายสิบเที่ยว รับมือพายุโคนี
เวียดนาม จะได้รับผลกระทบจากพายุโคนี ที่อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว แต่จะทำให้มีฝนตก ลมแรง จ.กว๋างนาม จ.กว๋างหงาย และ จ.บิ่งดิ่ง กำลังได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก ส่วน จ.เถื่อเทียนเว้ นครดานัง และ จ.ฝูเอียน ในภาคกลาง และ จ.กงตูม และ จ.ซาลาย ในเขตที่ราบสูงตอนกลางจะมีปริมาณฝนที่น้อยกว่า
สายการบินเวียดนาม ประกาศยกเลิกหลายสิบเที่ยวบินที่เดินทางเข้าออก จ.บิ่งดิ่ง และ จ.กว๋างนาม
-สายการบินเวียดนามยกเลิก 6 เที่ยวบินจากนครโฮจิมินห์และกรุงฮานอย ไปยังสนามบินกวีเญิน ใน จ.บิ่งดิ่ง และสนามบินจูลาย ใน จ.กว๋างนาม
-สายการบินเวียดเจ็ท ยกเลิก 4 เที่ยวบินจากสนามบินที่นครโฮจิมินห์และกรุงฮานอยไปยังสนามบินจูลาย และอีก 2 เที่ยวบินจากนครโฮจิมินห์ไปยังสนามบินกวีเญิน
พายุโคนี เป็นพายุลูกที่ 10 ที่ถล่มเวียดนามในปีนี้ และเฉพาะเดือน ต.ค.2563 ภาคกลางของเวียดนามเผชิญกับพายุถึง 4 ลูก และพายุดีเปรสชัน 1 ลูก ผลจากพายุทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงครั้งประวัติศาสตร์ และดินถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายรวมอย่างน้อย 235 คน
นอกจากนี้ พายุโคนี สร้างความเสียหายให้กับฟิลิปปินส์ ทำให้มีชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายและยังทำให้ดินโคลนภูเขาไฟ ไหลฝังกลบบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากพายุมีความเร็วสูงสุดถึง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ค่าไฟฟ้า ช่วงปีใหม่ ลดลง 2.89 สต./หน่วย
การเก็บค่าไฟฟ้า นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2564 เหลือ-15.32 สตางค์/หน่วย ลดลง 2.89 สตางค์/หน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐานอยู่ที่ 3.61 บาท/หน่วย จากปัจจุบันค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เนื่องจาก ต้นทุนราคาก๊าซลดลงและค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
CR:คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
ก.ท่องเที่ยว ฟื้นโครงการ Travel Bubble กับจีน ให้ทันช่วงตรุษจีนปีหน้า
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเจรจากับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เรื่องการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือ ทราเวลบับเบิล (Travel Bubble) ซึ่งเป็นการจับคู่กับประเทศหรือเมืองในประเทศจีนเพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันโดยไม่ต้องกักตัว โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจีนจาก 22 มณฑลที่ปลอดจากเชื้อโควิด-19 เป็นระยะเวลามากกว่า 150 วัน ซึ่งมีฐานประชากรรวมมากกว่า 800 ล้านคน
กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะประสานกับกระทรวงสาธารณสุข หากได้ข้อสรุปจะเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รวมทั้งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบ หวังว่า ครม.อนุมัติก่อนวันที่ 1 ม.ค.2564 เป็นของขวัญให้กับคนไทยทั้งประเทศเพื่อเป็นแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศต่อไป และจะพยายามดึงนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกจากการทำทราเวลบับเบิลให้ทันช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ.2564
เวียดนาม เตรียมชี้แจงสหรัฐฯ ถูกขึ้นภาษีนำเข้ายางรถยนต์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีตอบโต้การอุดหนุนขั้นต้นจากร้อยละ 6.23 เป็นร้อยละ 10.08 กับยางรถยนต์ขนาดเล็กที่นำเข้าจากเวียดนาม ในการบังคับใช้กฎใหม่เป็นครั้งแรกเพื่อต่อสู้กับการแทรกแซงค่าเงิน เวียดนามอยู่ในรายชื่อประเทศที่สหรัฐฯจับตามองเกี่ยวกับการบิดเบือนค่าเงิน เนื่องจาก การเกินดุลการค้าของประเทศกับสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ของเวียดนาม กล่าวว่า นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศไม่ได้มุ่งเป้าช่วยการส่งออก และได้ร้องต่อเจ้าหน้าที่ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ขอให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประเมินความเป็นจริงในเวียดนามให้มากขึ้น เวียดนามจะยังประสานงานกับทางการสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจสถานการณ์ให้ดียิ่งขึ้น และปกป้องผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของธุรกิจเวียดนามตามกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก