ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2563

06 พฤศจิกายน 2563, 06:42น.


ป่วนนับคะแนนเลือกตั้ง! ยื่นฟ้องศาล ให้ยุตินับคะแนน ยังต้องลุ้นผู้นำสหรัฐฯคนที่ 46



          การนับคะแนนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก มีคนออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งจำนวนมาก ข้อมูลจาก U.S. Election Project ระบุว่า ชาวอเมริกันมากกว่า 93 ล้านคนใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้า และมีบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์กว่า 59 ล้านใบ คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดเกือบ 240 ล้านคน นอกจากนี้ ข้อมูลการเลือกตั้งล่วงหน้ายังแสดงให้เห็นว่า กลุ่มที่เลือกพรรคเดโมแครตใช้การเลือกตั้งทางไปรษณีย์มากกว่ากลุ่มที่เลือกพรรครีพับลิกัน



-ตัวเลขการนับคะแนน CNN รายงานว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต นำนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน อยู่ที่ 253 ต่อ 213 เสียง



-ตัวเลขจาก Foxnews  นายไบเดน นำนายทรัมป์ อยู่ที่ 264 ต่อ 214 เสียง



-นายทรัมป์ ไม่พอใจการนับคะแนนยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลให้นับคะแนนใหม่ในรัฐวิสคอนซิน



-ขอให้ยุติการนับคะแนนในรัฐมิชิแกน รัฐเพนซิลเวเนีย รัฐจอร์เจีย เนื่องจากผู้สังเกตการณ์ของพรรครีพับลิกัน รายงานว่า พบเห็นการเพิ่มบัตรเลือกตั้งที่มาถึงล่าช้าเข้าในกลุ่มบัตรเลือกตั้งที่มาทันเวลาในรัฐจอร์เจีย และต้องการให้แยกบัตรทั้งสองส่วนออกจากกันเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการนับบัตรเลือกตั้งที่มาล่าช้า และหลายรัฐไม่สามารถดูการนับคะแนนได้



          จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป หากมีการโต้แย้งผลการเลือกตั้ง หรือผลการเลือกตั้งไม่ชัดเจน สถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างจะชัดเจนแล้วว่า ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นผู้ชนะก็จะต้องมีการโต้แย้งผลการเลือกตั้งอย่างแน่นอน หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีคะแนนออกมาใกล้เคียงกันอย่างมาก รวมถึงประเด็นการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ที่นายทรัมป์ กล่าวโจมตีมาโดยตลอดว่าทำให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้ง ผลที่ตามมาอาจแบ่งได้ดังนี้



-การยื่นขอนับคะแนนใหม่: ผู้สมัครสามารถยื่นขอให้มีการนับคะแนนใหม่ภายใต้กฎหมายของแต่ละรัฐ ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์ต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม ต้องรอจนกว่าการนับคะแนนจะสิ้นสุดลง



-การยื่นเรื่องต่อศาลฎีกา: เป็นการยื่นฟ้องเรื่องการลงคะแนนและขั้นตอนการนับคะแนน ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2543 ในการเลือกตั้งที่รัฐฟลอริดาระหว่างนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช กับนายอัล กอร์ ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนั้นออกมาสูสี จนต้องให้ศาลสูงสุดของสหรัฐฯเป็นผู้ตัดสิน



ตร.จับผู้ชุมนุมประท้วงผลเลือกตั้งหลายเมือง



          ความวุ่นวายในการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้มีการชุมนุมประท้วงในหลายเมืองสนับสนุนผู้สมัครทั้งสองคน



-ผู้สนับสนุนนายไบเดน เรียกร้องให้นายทรัมป์ ยอมรับความพ่ายแพ้ และให้นับคะแนนบัตรเลือกตั้งทุกใบ



-ผู้สนับสนุนนายทรัมป์ ไม่มั่นใจผลการนับคะแนนเรียกร้องให้เข้าไปสังเกตการณ์ได้มากขึ้นและนับคะแนนใหม่ในรัฐที่มีคะแนนสูสี   




-เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน :ตำรวจจับผู้ประท้วง 11 คน พร้อมยึดพลุไฟ ค้อน และปืนไรเฟิล พร้อมระบุว่าการประท้วงเป็นการก่อจลาจล เนื่องจากมีการทำลายข้าวของ ทุบหน้าต่างกระจกแตกเสียหาย ผู้ว่าการรัฐโอเรกอน สั่งให้ทหารเนชันแนลการ์ดประจำรัฐออกปฎิบัติการควบคุมสถานการณ์



-นิวยอร์ก ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงได้ 50 คนหลังการประท้วงขยายวงกว้างเมื่อคืนวันพุธ 4 พ.ย.2563



-เมืองฟินิกซ์ รัฐอริโซนา กลุ่มผู้สนับสนุนนายทรัมป์ ประมาณ 200 คนรวมตัวกันหน้าสำนักงานเลือกตั้งในเมืองฟินิกซ์ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย ตั้งแนวป้องกันด้านหน้าทางเข้า ขณะที่ผู้ประท้วงบางคนพกปืนอย่างเปิดเผย เนื่องจากรัฐนี้อนุญาตการพกพาอาวุธในสถานที่สาธารณะ



-เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน เมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีการชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่



CR:NBC News



‘ไบเดน’ แถลงขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ



สถานการณ์ที่วุ่นวายในสหรัฐฯ ท่าทีของคู่ชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ



-นายไบเดน แถลงว่า ขอให้ชาวอเมริกันทุกคนอยู่ในความสงบ และต้องมีการนับบัตรเลือกตั้งทุกใบ



-นายทรัมป์ เตรียมที่จะยื่นฟ้องร้องการนับคะแนนในรัฐต่างๆเพิ่มอีก   



-ขณะที่ มีหลายรัฐที่ยังมีปัญหา ประกอบด้วย รัฐอริโซนา รัฐเนวาดา รัฐนอร์ทแคโรไลนา รัฐจอร์เจีย รัฐเพนซินเวเนีย และรัฐอลาสกา



ขานรับ ‘ไบเดน’ เป็นปธน.หุ้นดาวโจนส์ ปิดบวกกว่า 500 จุด



          การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี 5 พ.ย. 2563 พุ่งแรง หลังจากที่นายไบเดน ใกล้ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งที่คู่คี่สูสี



-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 542.52 จุด หรือร้อยละ 1.95 ปิดที่ 28,390.18 จุด



-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 67.01 จุด หรือร้อยละ 1.95 ปิดที่ 3,510.45 จุด



-แนสแดค เพิ่มขึ้น 300.15 จุด หรือร้อยละ 2.59 ปิดที่ 11,890.93 จุด




รมว.กต.เกาหลีใต้ เตรียมเยือนสหรัฐฯ ยืนยันความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่น



          นางคัง คยอง ฮวา รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ จะเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย.2563 เป็นการเดินทางเยือนสหรัฐฯ เป็นเวลา 4 วัน หวังกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ และยืนยันที่จะเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของสหรัฐฯ ไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ   



          การเดินทางดังกล่าวเกิดขึ้นตามคำเชิญของนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ หลังจากที่เมื่อเดือนที่แล้ว นายปอมเปโอ ยกเลิกแผนการเดินทางเยือนกรุงโซล เนื่องจากนายทรัมป์ ติดเชื้อโควิด-19



          รายงานระบุว่า รัฐมนตรีทั้งสองคนจะประชุมในประเด็นทวิภาคีและระดับภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ เพื่อแลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ




เฟด คงดอกเบี้ยระยะสั้นกระตุ้นศก.ทำให้ทองคำ บวกขึ้น 50 ดอลลาร์ฯ

          คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับร้อยละ 0.00-0.25 ตามที่ตลาดคาดการณ์ เนื่องจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานฟื้นตัวขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเมื่อช่วงต้นปี นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลก เฟดจะใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และให้ความมั่นใจว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีการจ้างงานและเศรษฐกิจดีขึ้น



          ผลการประชุมของเฟด ทำให้ราคาทองคำ ปิดตลาดแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 เพิ่มขึ้น 50.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,946.80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์



          ราคาน้ำมันในตลาดโลก ลดลง เกือบร้อยละ 1 เนื่องจากวิตกสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19  เพิ่มสูงขึ้น



-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 ลดลง 36 เซ็นต์ ปิดที่ 38.79 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนม.ค.2563 ลดลง 30 เซ็นต์ ปิดที่ 40.93 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



 



 



 



 



 



 



 



 




 

ข่าวทั้งหมด

X