นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรก พ้นการกักตัว สามารถท่องเที่ยวได้ แต่ต้องปฎิบัติตามมาตรการเคร่งครัด
นักท่องเที่ยวต่างชาติจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ล็อตแรกจำนวน 39 คน ที่เดินทางจากเซี่ยงไฮ้ด้วยวีซ่าประเภทพิเศษ Special Tourist Visa หรือ STV และได้กักตัวที่โรงแรมทางเลือก หรือ ASQ ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.2563 ครบกำหนดกักตัวครบ 14 วัน ซึ่งจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ครั้งพบว่าทั้งหมดไม่มีใครติดเชื้อ และสามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจในพื้นที่ต่างๆ ได้ โดยมีตำรวจท่องเที่ยวมาให้คำแนะนำระหว่างใช้ชีวิตในเมืองไทยให้ปฎิบัติตัวอย่างเคร่งครัด สำหรับระยะเวลาที่พักในไทยแต่ละคนระยะเวลาไม่เท่ากันแต่สามารถอยู่ได้ 90 วัน ต่อได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน รวม 270 วัน ซึ่งเหมาะสำหรับการกักตัวและพำนักในระยะยาว
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย(ททท.) ระบุว่า นักท่องเที่ยว STV ที่พ้นการกักตัวเเล้ว บางส่วนบอกว่าจะเดินทางไปเที่ยวทะเลเเต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ว่าเป็นทะเลจังหวัดใด เพราะเป็นข้อมูลส่วนตัว ขณะเดียวกัน มีนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางมาไทยต่อเนื่อง เเต่ ททท.จะยังคงรับเดือนละ 1,200 คน ไปจนถึงสิ้นปี ไม่เพิ่มจำนวน เพราะจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ
ส่วนการใช้เงินส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบินอยู่ระหว่างวางเเนวทาง เพื่อจูงใจให้มีผู้ใช้สิทธิมากขึ้น โดยจะนำเข้าที่ประชุมศูนย์
รวบกลุ่มชาวกัมพูชา มุดรั้วชายแดนลอบเข้าไทย ด้าน จ.สระแก้ว
พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 (ผบ.ชค.กรม.ทพ.12) สั่งการให้ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1205(ผบ.ร้อย ทพ.1205) ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก และ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกันออกลาดตะเวนและเฝ้าตรวจ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา บริเวณช่องทางธรรมชาติ ตามแนวชายแดนพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวน 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน ลอบมุดรั้วตะเข็บชายแดนจากฝั่งกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทยแล้วเดินเท้าลัดเลาะตามไร่อ้อยริมชายแดนมุ่งหน้าจะเข้าตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ
เจ้าหน้าที่ชุดดักซุ่มจึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมพร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ทั้ง 5 คน สอบถามอ้างว่าจะเดินทางไปทำงานรับจ้างในตลาดเดชไทย ตรงข้ามตลาดโรงเกลือ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพบว่าไม่มีเอกสารการเดินทางและเอกสารการอนุญาตทำงานในประเทศไทย จึงร่วมกันควบคุมตัวชาวกัมพูชาทั้ง 5 คน มาสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่1205 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ ทำการตรวจคัดกรองและวัดอุณหภูมิร่างกายป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยทั้ง 5 คนมีอุณหภูมิร่างกายปกติไม่มีไข้
สอบสวนเบื้องต้นทั้ง 5 คนรับว่ามีบ้านพักอยู่ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้มานานหลายเดือนจึงตัดสินใจลักลอบเข้าไทยเพื่อมารับจ้างทำงานในตลาดเดชไทย ตรงข้ามตลาดโรงเกลือ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับได้ก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายภาพทำประวัติ พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกัมพูชานำชาวกัมพูชาทั้ง 5 คนเดินทางกลับประเทศที่ช่องทางอนุโลม ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง
รัฐมนตรีการค้าสิงคโปร์ ชี้ว่า ความท้าทายของผู้นำสหรัฐฯ คือ สร้างความสามัคคี
นายชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ กล่าวถึง ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการนับคะแนนผลการเลือกตั้งว่าใครก็ตามที่เป็นผู้ชนะจำเป็นจะต้องสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในประเทศ เพื่อปรับตัวรับความท้าทายต่างๆ ของโลกาภิวัฒน์และการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัล หรือจะเสี่ยงกับการต่อต้านอย่างอย่างรุนแรงจนอาจจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโลก
นายชาน เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก ว่า หนึ่งในความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ก็คือ ทำอย่างไร สหรัฐฯจึงจะรักษาความเป็นผู้นำโลกด้วยการขับเคลื่อนบรรดาประเทศพันธมิตรให้ร่วมมือกันเพื่อรักษาระเบียบด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของโลก
การแสดงความเห็นของนายชาน มีขึ้น หลังจากที่นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral Vote ใกล้ถึง 270 เสียง ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่ชิงตำแหน่งจากพรรครีพับลิกัน ได้ยื่นฟ้องทางกฎหมายเพื่อขอให้ยุติการนับคะแนนในหลายรัฐ
สำนักข่าว CNN และ NBC รายงานว่า นายไบเดน ได้รับชัยชนะในรัฐมิชิแกน และรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเคยเป็นรัฐที่นายทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งปี 2559 เพิ่มโอกาสให้กับนายไบเดนที่จะช่วงชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากนายทรัมป์ โดยชัยชนะดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทีมหาเสียงของนายทรัมป์ จะใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อระงับการนับคะแนนในอย่างน้อย 2 รัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานอ้างผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของสำนักวิจัยเอดิสัน รีเสิร์ช พบว่า 9 รัฐที่มีคะแนนสูสี ได้แก่ รัฐอลาสกา รัฐแอริโซนา รัฐจอร์เจีย รัฐเมน รัฐมิชิแกน รัฐเนวาดา รัฐนอร์ทแคโรไลนา รัฐเพนซิลวาเนีย และรัฐวิสคอนซิน ในจำนวนนี้ นายทรัมป์มีคะแนนนำนายไบเดนในรัฐอลาสกา รัฐจอร์เจีย รัฐนอร์ทแคโรไลนา และรัฐเพนซิลวาเนีย ขณะที่ นายไบเดน มีคะแนนนำนายทรัมป์ในรัฐแอริโซนา รัฐมิชิแกน รัฐเนวาดา รัฐวิสคอนซิน และรัฐเมน
ชาวอเมริกัน เสริช์คำว่า ‘กาแฟ’ และ ‘เครื่องดื่มแอลกอฮอล์’ มากที่สุดในคืนนับคะแนน
กูเกิล (Google) เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันได้เข้ามาค้นหาคำว่า "กาแฟ" และ "เครื่องดื่มแอลกอฮอล์" เป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในช่วงค่ำคืนของการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีการค้นหาคำว่า "ร้านเหล้าใกล้ฉัน" พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ควบคู่ไปกับ "ร้านขายมันฝรั่งทอดใกล้ฉัน" ในขณะที่ประชาชนกำลังลุ้นผลการนับคะแนน
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งหลายรายเริ่มออกมาแสดงความกังวลกันว่า ชาวอเมริกันกำลังเครียดกับผลการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่มีการประเมินสถานการณ์ว่าผลการเลือกตั้งอาจออกมาล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากยังเหลือบัตรเลือกตั้งที่ถูกส่งมาทางไปรษณีย์ที่ยังนับไม่เสร็จในอีกหลายรัฐ