การจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเริ่มมีรถคับคั่ง เพราะเป็นช่วงเวลาเลิกงาน เลิกเรียน มีผู้โดยสารมาใช้บริการจำนวนมาก รถโดยสารสาธารณะต่างๆ มีผู้ใช้บริการหนาแน่น แต่นอกจากความรวดเร็วในการเดินทางแล้ว ความปลอดภัยก็เป็นเรื่องสำคัญ กรมการขนส่งทางบก จึงส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถ และความพร้อมในการรับ-ส่งผู้โดยสาร เพื่อเพิ่มความมั่นใจและเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
นายทินกร พฤกษ์สุวัฒน์ เจ้าหน้าที่ขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก บอกว่า สิ่งที่กรมการขนส่งทางบกเป็นห่วง คือสภาพความพร้อมของรถโดยสาร อย่างรถเมล์ บางคันกระจกแตกร้าว แต่ไม่ซ่อมแซมแก้ไข อาจเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารที่นั่งใกล้กระจก รวมทั้งรถเมล์บางคัน ไม่ได้ต่อภาษี อุปกรณ์ส่วนควบ หรือไฟบอกลักษณะบนหลังคารถผิดสี ก็ถือว่าผิดกฎหมาย จำเป็นต้องเขียนใบคำสั่งให้ไปเสียค่าปรับที่กรมการขนส่งทางบก
ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถเมล์ที่กระทำผิดถึง 3 ราย คือ รถโดยสารประจำทางของขสมก.ที่ป้ายทะเบียนไม่ชัดเจน มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และกระจกด้านหลังแตก โทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท อีกคันเป็นรถ ขสมก.ที่กระจกด้านข้างร้าว ถือว่าอันตรายต่อผู้โดยสารมาก และรถร่วมบริการที่ไม่ต่อภาษี โทษปรับจริง ถึง 50,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่วันนี้ เขียนใบคำสั่งและฐานความผิดไว้ และให้บริษัทต้นสังกัดรถร่วมดังกล่าว ไปจ่ายค่าปรับที่กรมการขนส่งทางบก โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายเปรียบเทียบปรับจะใช้ดุลยพินิจว่าจะเสียค่าปรับเท่าไหร่
นอกจากนี้ยังพบรถร่วมแบบใช้ไฟฟ้า (สีเขียว) ที่ออกทดลองวิ่งให้บริการฟรีกับประชาชน แต่ยังไม่มีป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ก็ตักเตือนให้ปฏิบัติให้เรียบร้อย และให้ต้นสังกัดมาดำเนินการขออนุญาตวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารให้ถูกต้อง
ส่วนรถตู้วินอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีถึง 7 วิน การตรวจสอบวันนี้ พบว่า รถตู้โดยสารส่วนใหญ่ปฏิบัติตามข้อบังคับ มีเพียงหนึ่งคันที่ยังไม่ต่อภาษี เจ้าหน้าที่จึงเขียนใบคำสั่งให้ไปเสียค่าปรับ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ยังแนะนำผู้โดยสารที่ต้องใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ ให้สังเกตสิ่งเหล่านี้ เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัย คือ รถตู้โดยสารต้องมีสติ๊กเกอร์ รับรองการตรวจสภาพรถ คันไหนใช้แก๊สก็ต้องมีสติกเกอร์ระบุให้ชัดเจน ต้องมีป้ายรับรองจาก ขสมก.และมีใบภาษีรถ ภายในรถต้องมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย คือถังดับเพลิงขนาดเล็กไม่ต่ำกว่า 2 ถัง ค้อนทุบกระจก มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง และเว้นที่นั่งเบาะสุดท้าย 1 ที่นั่ง เป็นทางออกฉุกเฉิน ขณะขับขี่ บริเวณคอนโซลรถจะต้องเสียบการ์ดจีพีเอส ระบุพิกัดและความเร็วรถ หากคันไหนไม่เสียบ จะมีเสียงร้องเตือนผู้โดยสารสามารถแจ้งสายด่วน 1584 กรมการขนส่งทางบก ให้ตรวจสอบได้ ส่วนพนักงานขับรถ ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย สวมเสื้อเชิ้ตปักชื่อนามสกุล และป้ายสัญลักษณ์ของ ขสมก.ให้ชัดเจน
สำหรับการตรวจรถแท็กซี่ วันนี้พบว่าไม่ติดป้ายประจำตัวคนขับ 1 คัน เพราะเปลี่ยนกะแล้วลืมเสียบป้าย เจ้าหน้าที่ต้องตักเตือน พร้อมให้คำแนะนำผู้ขับขี่รถแท็กซี่ด้วยว่า หากเปลี่ยนกะให้คนอื่นขับต่อ อย่าลืมดึงป้ายประจำตัวของตัวเองออกด้วย เพื่อป้องกันการแอบอ้างไปกระทำผิด ส่วนใครที่รับกะต่อ ก็นำป้ายประจำตัวของตัวเองมาติดไว้ เพื่อให้ผู้โดยสารสังเกตได้ง่าย