ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯวิจารณ์เรื่องการลงคะแนนทางไปรษณีย์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯว่าอาจจะนำไปสู่การทุจริตอย่างแพร่หลาย แต่ในความเป็นจริงสหรัฐฯเคยมีการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ ผลการศึกษาเรื่องการเลือกตั้งทั้งระดับชาติและระดับรัฐของสหรัฐฯ ชี้ว่า แม้ว่าอาจจะเกิดการทุจริตในการเลือกตั้งอยู่บ้าง แต่ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรเบรนเนน เซนเตอร์ ฟอร์ จัสติส (Brennan Center For Justice)ของสหรัฐฯซึ่งศึกษาวิจัยเรื่องนี้ ระบุว่า โอกาสเกิดการทุจริตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯโดยคณะผู้เลือกตั้งของสหรัฐฯ ซึ่งมีตัวแทนจากรัฐต่างๆรวม 538 คน มีทางเป็นไปได้น้อยมากคือ มีอัตราการทุจริตในระดับต่ำกว่าร้อยละ 0.0009
นอกจากนั้น มีข้อกำหนดต่างๆที่ทำให้การลงคะแนนทางไปรษณีย์เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และยุติธรรม เช่น มาตรการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้มีคนแอบอ้างใช้สิทธิเลือกตั้งของคนอื่น หรือป้องกันการขโมยบัตรเลือกตั้ง เช่น เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่ตรวจสอบบัตรลงคะแนนมาจากพื้นที่เดียวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และการกำหนดให้มีการลงลายมือชื่อบนซองจดหมาย ในปีนี้มีการลงคะแนนทางไปรษณีย์หลายล้านใบซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยนับแต่ยังไม่มีหลักฐานชี้ว่ามีการทุจริต
ด้านนายแอนโธนี เซอร์เชอร์ นักข่าวประจำภูมิภาคเหนือของบีบีซี ระบุว่า นายทรัมป์พูดเป็นนัยมาหลายสัปดาห์แล้วว่า ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้สูสีมาก เขาจะกล่าวหาคู่แข่งขันคือ นายไบเดนว่าทุจริตการเลือกตั้ง ระบุว่า นายไบเดนพยายามจะแย่งชัยชนะไปจากตัวเขาและในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อเช้านี้ นายทรัมป์ก็ได้ประกาศเช่นนั้นจริงๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวอเมริกันจำนวนมาก คือสถานการณ์ที่ผู้สมัครที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯจะพูดในทางสร้างความเสื่อมเสียให้กับระบบการเลือกตั้งของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการนับคะแนนทางไปรษณีย์ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานับหลายวันจึงจะดำเนินการเสร็จ
หลังจากนายทรัมป์พูดเสร็จ รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ได้เข้ามาพูดปรับอารมณ์ให้ทุกคนใจเย็นลง นายเพนซ์ ปฏิเสธที่จะแถลงชัยชนะก่อนเวลาอันควร ยืนยันว่า จะรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสหรัฐฯนับบัตรลงคะแนนจนครบทุกใบ นักข่าวบีบีซี มองว่า บุคคลที่สมควรจะออกมาพูดในช่วงเวลาที่ผลคะแนนยังไม่นิ่งเช่นนี้น่าจะเป็นตัวประธานาธิบดีทรัมป์เองมากกว่า
Cr: BBC, New York Times