ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2563

04 พฤศจิกายน 2563, 14:15น.


กรมอนามัย สำรวจพบว่า ในสถานบันเทิงและยานพาหนะ มีคนสวมหน้ากากอนามัยเพียง49%



          นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการสำรวจอนามัยโพลออนไลน์ ระหว่างวันที่ 23 – 27 ต.ค. 2563 เรื่องการสวมหน้ากากอนามัย พบว่า



-สถานที่ที่ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยมากที่สุดคือ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้อยละ 92



-สถานที่แออัด เช่น การจัดประชุม อบรม สัมมนา ตลาดนัด หรือการรวมกลุ่มคนจำนวนมากร้อยละ 90 -โรงพยาบาล ฟิตเนส ร้อยละ 83



-สถานที่ทำงาน ร้อยละ 78



-สถานศึกษา ร้อยละ 62.44



- โรงแรม รีสอร์ท  ร้อยละ 60



ที่น่ากังวลคือ สถานบันเทิงและยานพาหนะ มีการสวมหน้ากากอนามัยเพียงร้อยละ 49 ดังนั้น ไม่เพียงแต่ผู้ประกอบการที่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด



‘ทรัมป์’ ชนะที่ฟลอริดา พลิกโผทำให้คาดว่าจะชนะการเลือกตั้ง



          อัตราต่อรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯของตลาดพนันพลิกไปที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน มากกว่านายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เบตแฟร์ บ่อนรับพนันถูกกฎหมายของอังกฤษ เก็งว่า นายทรัมป์มีโอกาสที่จะได้อยู่ในทำเนียบขาวต่อไปเป็นสมัยที่สองถึงร้อยละ 60 จากที่ให้โอกาสไว้เพียงร้อยละ 39 ตอนเปิดหีบเลือกตั้ง ขณะเดียวกันก็ลดโอกาสที่นายโจ ไบเดน จะชนะการเลือกตั้งลงเหลือเพียงร้อยละ 40 จากที่ให้ไว้ร้อยละ 61 ก่อนหน้านี้



          โฆษกของเบตแฟร์ ให้เหตุผลว่า นายทรัมป์ ตีตื้นกลับมาได้อย่างมีนัยสำคัญและกำลังมาแรงมากจนถือได้ว่าเป็นคืนที่น่ากังวลมากสำหรับนายไบเดน



          ขณะที่ สมาร์เกตส์ เอ็กซ์เชนจ์ ให้โอกาสว่านายทรัมป์ จะชนะร้อยละ 65 จากเดิมที่ให้โอกาสไว้แค่ร้อยละ 39 ตอนเปิดหีบ และลดโอกาสที่นายไบเดน จะชนะเหลือเพียงร้อยละ 35 จากที่เคยให้ไว้ว่าจะชนะร้อยละ 61



          นักวิเคราะห์การเมืองของสมาร์เกตส์ ให้เหตุผลว่า การที่นายทรัมป์ ได้คะแนนดีขึ้น มาจากการที่นายทรัมป์ สามารถคว้าชัยที่รัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นรัฐที่กระแสกลับไปกลับมาได้สำเร็จ โดยเฉพาะในเขตไมอามี-เดดที่มีประชากรคิวบาจำนวนมาก ซึ่งถือได้ว่าในรัฐที่ต้องชนะให้ได้นั้น นายทรัมป์สามารถชนะได้จริง ซึ่งผิดกับนายไบเดน



คะแนนนิยมพรรครีพับลิกันลดลงในกลุ่มคนผิวขาว-ผู้สูงอายุในรัฐจอร์เจีย-เวอร์จิเนีย



          ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็กซิตโพล (Exit Poll) ในรัฐจอร์เจียและเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน ชี้ว่า นายทรัมป์ ได้คะแนนนิยมลดลงในหมู่ผู้สนับสนุนที่เป็นชาวอเมริกันผิวขาวและผู้สูงอายุ ผลสำรวจที่จัดทำโดย Edison Research ชี้ว่า แม้นายทรัมป์จะมีคะแนนเหนือนายไบเดน ในรัฐจอร์เจียและเวอร์จิเนีย แต่ฐานเสียงของผู้สนับสนุนเดิมของพรรครีพับลิกันบางส่วน ได้หันไปสนับสนุนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งครั้งนี้



         โพลของ Edison Research แสดงให้เห็นว่า นายทรัมป์มีคะแนนนิยมลดลงในหมู่ผู้สนับสนุนที่เป็นคนผิวขาวในรัฐจอร์เจียจาก 8 ใน 10 เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2559 มาเป็น 7 ใน 10 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะที่ผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี ให้การสนับสนุนนายทรัมป์ลดลงจาก 7 ใน 10 มาเป็น 6 ใน 10



          ส่วนการสำรวจที่จัดทำขึ้นในรัฐเวอร์จิเนีย พบว่า นายทรัมป์ ได้คะแนนเสียงจากคนผิวขาวในรัฐเวอร์จิเนีย 6 ใน 10 ลดลงจาก 7 ใน 10 จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว



          ทั้งนี้ จากผลการนับคะแนนล่าสุด นายไบเดน สามารถคว้าชัยชนะจากรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นรัฐที่นางฮิลลารี คลินตัน เคยชนะในการเลือกตั้งปี 2559 เช่นกัน



กลุ่มสนับสนุน “ไบเดน” รวมตัวเตรียมฉลองชัยชนะ



          กลุ่มผู้สนับสนุนนายไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตหลายร้อยคนรวมตัวกันใกล้ทำเนียบขาวเพื่อเตรียมฉลองชัยชนะล่วงหน้าของพรรคเดโมแครต กลุ่มผู้สนับสนุนนายไบเดน หลายคน รู้สึกวิตกกังวลว่า นายทรัมป์ อาจจะพยายามใช้วิธีโกงผลการเลือกตั้งด้วยการประกาศชัยชนะล่วงหน้าหรือใช้การพิจารณาคดีของศาลที่ไม่เป็นธรรมหากผลการเลือกตั้งต้องตัดสินกันจนนาทีสุดท้าย



          มาลิก วิลเลียมส์ ครูวัย 27 ปีและหนึ่งในกลุ่มผู้สนับสนุนนายไบเดนจากรัฐแมริแลนด์ กล่าวว่า มาร่วมชุมนุมที่นี่ ซึ่งเป็นการฉลองชัยล่วงหน้าและคิดว่านายทรัมป์ จะต้องพ่ายแพ้ ด้านเกรตา โจนส์ พนักงานร้านขายของวัย 20 ปี เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่เธอใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยการลงคะแนนให้นายไบเดนและนางแฮร์ริส และกล่าวทิ้งท้ายว่า เธอรู้สึกกลัว เพราะไม่ว่าผลการเลือกตั้งออกมาเป็นแบบใดก็อาจทำให้เกิดสงครามกลางเมืองได้และเธอยังไม่ได้เตรียมใจพร้อมรับสิ่งนี้



Foxnews



 

ข่าวทั้งหมด

X