ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2563

04 พฤศจิกายน 2563, 07:50น.


‘ทรัมป์’ประเดิมชนะ‘ไบเดน’ ที่เคนตักกีและอินเดียนา



เริ่มนับคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 ในบางรัฐบ้างแล้ว



-รัฐเคนตักกี นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันชนะนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต โดยนายทรัมป์ ได้คะแนนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 534,640 คะแนน ร้อยละ 54.23 ส่วนนายไบเดน ได้คะแนน 383,080 คะแนน ร้อยละ 44.24 รัฐนี้มีคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง 8 เสียง       



-รัฐอินเดียนา นายทรัมป์ ชนะนายไบเดน รัฐนี้มีคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง 11 เสียง       



ในภาพรวมรัฐที่ปิดหีบการเลือกตั้งและนับคะแนนแล้ว CNN รายงานว่า นายทรัมป์ นำนายไบเดน 11 ต่อ 0 เสียง



นักลงทุนเดิมพันศึกเลือกตั้ง ดาวโจนส์ ปิดตลาดบวกกว่า 500 จุด



          ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันอังคาร 3 พ.ย.2563  พุ่งแรง ดาวโจนส์ บวกกว่า 500 จุด นักลงทุนเดิมพันว่า ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้สูสีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ อาจจบลงด้วยชัยชนะที่ชัดเจนของนาย โจ ไบเดน ผู้สมัครจากเดโมแครต  เนื่องจาก นายไบเดน มีคะแนนนิยมนำหน้าในผลโพลระดับชาติหลายสำนักช่วยเพิ่มความคาดหวังว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเด็ดขาดและนักลงทุนเชื่อว่าแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเลือกตั้งจะเป็นไปตามที่เขาสัญญาไว้ โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน

-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 554.98 จุด หรือร้อยละ 2.06 ปิดที่ 27,480.03 จุด



-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 58.92 จุด หรือร้อยละ 1.78 ปิดที่ 3,369.16 จุด



-แนสแดค เพิ่มขึ้น 202.96 จุด หรือร้อยละ 1.85 ปิดที่ 11,160.57 จุด



          เช่นเดียวกับ ราคาทองคำ ปิดตลาดพุ่งแรง แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ นักลงทุนเตรียมตัวรับมือกับผลการเลือกตั้ง ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 เพิ่มขึ้น 17.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,910.40 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์



          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ ปิดที่ 37.66 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนม.ค.2564 เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 39.71 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



          นักวิเคราะห์ มองว่า ราคาน้ำมันขยับขึ้นได้ไม่มากนัก แต่มีความกังวลของการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายประเทศเริ่มทยอยกลับสู่มาตรการล็อกดาวน์กระทบต่อความต้องการใช้พลังงาน 



นักวิจัย ชี้ยุทธศาสตร์ไทย ไม่ควรเลือกข้าง ควรรับทั้งสหรัฐฯ-จีน



          นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งสหรัฐฯ มีความสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯต่อการวางตัวทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก การวางตัวระหว่างสหรัฐฯกับจีน และจะมีผลต่ออนาคตเศรษฐกิจไทย มองว่า ไทยควรเปิดรับทั้งคู่และอยู่ร่วมกับสหรัฐฯและจีนให้ได้ ไม่ควรเลือกข้าง เพราะวันนี้ไทยต้องค้าขายกับจีน แม้จีนยังเป็นมหาอำนาจเบอร์ 2 แต่เรื่องการค้าจีนเป็นเบอร์ 1 ของโลก เปิดรับการย้ายฐานจากจีนให้เข้ามาบ้านเราให้มากขึ้นเพื่อหาทางส่งออกไปสหรัฐฯและส่งออกไปประเทศอื่น



          ยุทธศาสตร์ของไทย ควรจะเอียงจีน อ่อนตามสหรัฐฯ คือ เปิดรับทั้งสองด้าน ไทยไม่สามารถหนีกระแสโลกาภิวัตน์  เชื่อว่า ไทยและอาเซียนยังสามารถอยู่รอดได้ แต่หากบริหารไม่ดีกระแสโลกาภิวัตน์ตีกลับจะมีผลให้เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าศักยภาพ



          ในระยะสั้นผลกระทบจากการเลือกตั้งต่อไทยตั้งแต่ตอนนี้ถึงกลางปี จะเห็นภาพความไม่แน่นอนสูงและมีการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง โดยช่วงสั้นจะเห็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าและเงินบาทแข็งค่า ซึ่งกรณีที่นายไบเดนชนะจะเห็นเงินบาทแข็งค่าหลุดระดับ 29-30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ



สหราชอาณาจักร ยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายเป็นระดับ 'รุนแรง'



          สหราชอาณาจักรประกาศยกระดับการเตือนภัยคุกคามการก่อการร้ายจากระดับ "มาก" เป็นระดับ "รุนแรง" เนื่องจากฝ่ายความมั่นคงได้รับรายงานข่าวกรองว่าจะมีการโจมตีเกิดขึ้น หลังจากที่การก่อเหตุโจมตีในเมืองใหญ่หลายครั้งทั้งที่กรุงปารีสและเมืองนีซของฝรั่งเศสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายเมื่อเดือนต.ค.2563 และเหตุการณ์ที่กรุงเวียนนา ออสเตรียเมื่อวันจันทร์ 2 พ.ย.2563  ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก



          นางปรีติ ปาเทล รัฐมนตรีกิจการภายในสหราชอาณาจักร กล่าวว่าประชาชนควรมีความระมัดระวังมากขึ้นแต่ไม่ควรตื่นตระหนก มาตรการนี้เป็นมาตรการป้องกันหลังจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญในฝรั่งเศสและออสเตรีย ขณะที่สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่แท้จริงและร้ายแรง หากพบบุคคลหรือการกระทำที่น่าสงสัยใด ๆ ขอให้แจ้งเหตุต่อตำรวจโดยทันที



          สำหรับการประเมินระดับภัยคุกคามดำเนินการโดยศูนย์วิเคราะห์การก่อการร้าย (Joint Terrorism Analysis Center : JTAC) ได้แบ่งระดับของภัยคุกคามออกเป็น 5 ระดับคือ



•ต่ำ (Low) - การโจมตีไม่น่าเป็นไปได้สูง



•ปานกลาง (Moderate) - สามารถโจมตีได้ แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้



•มีความสำคัญ (Substantial) - มีแนวโน้มที่จะเกิดการโจมตี



•รุนแรง (Severe) – มีโอกาสสูงที่จะมีการโจมตี



•วิกฤต (Critical) – การโจมตีมีแนวโน้มสูงในอนาคตอันใกล้



 

ข่าวทั้งหมด

X