ยังไม่รู้ว่าหญิงชาวฝรั่งเศส ติดโควิด-19 จากที่ไหน ผลแล็บ ระบุว่า ไม่ได้ติดจากผู้ติดเชื้อในสถานกักกันเดียวกัน
ผลการถอดรหัสพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ของเชื้อโควิด-19 หญิงชาวฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ที่ตรวจพบเชื้อภายหลังจากการกักกันตัวในสถานกักกันโรคทางเลือก ที่ จ.สมุทรปราการ 14 วัน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์
-3 คน เป็นคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน แคนาดา เบลเยียม เป็นสายพันธุ์เดียวกัน
-ผลการตรวจของหญิงชาวฝรั่งเศสเป็นคนละสายพันธุ์กับ 3 คนแรก
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าหญิงชาวฝรั่งเศส ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 มาจากผู้ติดเชื้อในสถานกักกันเดียวกัน 3 คน แต่หากจะถามว่าติดจากที่ใด อย่างไรนั้น ผลการตรวจทางห้องแล็บไม่สามารถบอกได้
กรณีที่การตรวจเชื้อโควิด-19 ของหญิงชาวฝรั่งเศส ไม่ตรงกับผู้ติดเชื้อรายอื่นในสถานกักกันเดียวกัน มีนัยยะอย่างไร นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า หมายถึงว่าไม่ได้ติดเชื้อมาจากผู้ที่พักอยู่ในสถานกักกันโรคเดียวกัน และไทม์ไลน์ของหญิงชาวฝรั่งเศสที่ออกจากสถานกักกันโรคแล้วเดินทางไปหลายที่ แต่จากการตรวจหาเชื้อคนรอบข้าง ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คนในครอบครัว ก็มีผลการตรวจเป็นลบ ยกตัวอย่างง่ายๆ เคสนี้ก็เหมือนเคสดีเจ ที่ไม่ทราบว่ามาได้อย่างไร เพราะผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็ไม่ได้ติด ผลแล็บบอกเราได้ประมาณนี้
รมว.สธ.ยืนยัน ไม่พบเชื้อโควิด-19 กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง-ต่ำ คนใกล้ชิดหญิงชาวฝรั่งเศส
นาย
-ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 47 คน ผลตรวจทั้งหมดเป็นลบ ส่วนใหญ่ครบกำหนดเฝ้าระวัง 14 วันแล้ว ยกเว้นคนในครอบครัวจะครบกักตัวในวันที่ 5 พ.ย.นี้
-ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 80 คน ทั้งหมดไม่มีอาการ ครบกำหนดติดตามเฝ้าระวัง 14 วันแล้ว เหลือกลุ่มบุคลากรในโรงพยาบาลที่ครบกำหนดวันที่ 3 พ.ย.2563
กรมควบคุมโรค ชี้แจงขั้นตอนดูแลต่างชาติติดโควิด-19 ต้องหาย- ไม่แพร่เชื้อ ถึงออกจากโรงพยาบาล
มาตรการคัดกรองดูแลชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยและต้องกักตัว 14 วัน กรณีที่ตรวจพบติดเชื้อ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดี
1.เมื่อผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ ให้พักในโรงพยาบาล 10 วันนับจากวันที่ตรวจพบ
2.ผู้ป่วยที่อาการน้อย ให้พักในโรงพยาบาล 10 วันนับจากวันที่มีอาการและพักจนไม่มีอาการแล้วอย่างน้อย 24 ชม.
3.ผู้ป่วยอาการรุนแรง รักษาตัวในโรงพยาบาลจนอาการดีขึ้นให้ออกจากโรงพยาบาลตามดุลพินิจของแพทย์ ผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้นและผลถ่ายภาพรังสีปอดคงที่ อุณหภูมิไม่เกิน 37.8 องศา ต่อเนื่อง 24 ชม. อัตราการหายใจไม่เกิน 20 ครั้ง/นาที แพทย์จะพิจารณาให้ออกจากโรงพยาบาลได้
คำแนะนำในการปฏิบัติตัว หลังกลับจากโรงพยาบาล ต้องปฎิบัติตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข หากมีอาการป่วยเกิดขึ้นใหม่ เช่น ไข้สูง ไอมาก เหนื่อย แน่นหน้าอก หอบ หายใจไม่สะดวก เบื่ออาหาร ให้รีบติดต่อสถานพยาบาล ให้สวมหน้ากากอนามัยและเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขอรถพยาบาลมารับ งดการเดินทางด้วยรถหรือเรือสาธารณะ
ส่วนผู้ใกล้ชิด ให้หมั่นสังเกตอาการตัวเอง วัดอุณหภูมิทุกวัน หากพบว่ามีไข้สูงมากกว่าหรือเท่ากับ 38 องศา และมีอาการทางเดินหายใจ เช่น ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย ควรไปหาหมอ
ผอ.WHO จะตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อแสดงอาการป่วย
หลังจากที่นายทีโดรส อัดนอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า เข้ารับการกักตัวอยู่ที่บ้านพัก เนื่องจากใกล้ชิดติดต่อกับคนที่ติดโรคโควิด-19 แม้ว่าจะไม่มีอาการป่วยแต่ต้องปฎิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากและจะทำงานจากที่บ้าน ขณะนี้ยังคงแข็งแรงดีและไม่มีอาการ
ด้านนพ.ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า หากนายกีเบรเยซุส แสดงอาการป่วย จะต้องตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทันที
จีน ใช้เคล็ดลับ ทุ่มสุดตัว ปราบให้อยู่หมัด โอกาสการติดเชื้อน้อยลง
หลายประเทศในโลกตะวันตก กำลังเผชิญโรคระบาดโควิด-19 รอบสอง นพ.จง หนันซาน ผู้เชี่ยวชาญโรคปอดและระบบทางเดินหายใจชื่อดังของจีน ยืนยันว่า โอกาสที่จะเกิดการระบาดใหญ่ในประเทศจีนมีต่ำมาก พร้อมเผยเคล็ดลับการควบคุมโควิด-19 ได้อย่างอยู่หมัด คือการทุ่มสุดตัวระดมมาตรการควบคุมที่ต้นน้ำ แม้ว่าขณะนี้จีนยังพบการระบาดในพื้นที่ต่างๆประปราย แต่ระยะเวลาการระบาดในแต่ละครั้งยิ่งสั้นลง จีน สะสมประสบการณ์ที่มีค่า รัฐบาลกลางได้ใช้ยุทธศาสตร์สกัดโรคระบาดจากศูนย์กลางการระบาด และทุ่มเทมาตรการควบคุมที่ต้นน้ำในทุกที่ที่พบการระบาด นี่คือเคล็ดลับการบรรลุชัยชนะอย่างงดงามในการควบคุมโรคระบาดจากไวรัสโคโรนาครั้งนี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าจีนจะไม่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากถึงหลักหมื่นคนอีกแล้ว ขณะนี้สภาพแวดล้อมในจีน ปลอดภัยมาก แต่ก็ขอเตือน อย่าการ์ดตก