หลังมอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้า พิจารณาโครงสร้างคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา แถลงว่า สถาบันพระปกเกล้า ได้เสนอ 2 รูปแบบที่จะมีกรรมการ 7-9 คน คือ
รูปแบบที่ 1 ผู้แทนฝ่ายต่างๆจากผลการประชุมของรัฐสภา ซึ่งแบ่งเป็น 3 ทางคือ คณะกรรมการ 7 ฝ่ายตามที่นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอซึ่งจะเป็นบุคคลที่มีอำนาจตัดสินใจมาร่วม หรือ 7 ฝ่ายที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ แต่ทุกคนยอมรับหรือลดเหลือ 5 ฝ่าย โดยลดตัวแทนผู้ชุมนุม และผู้เห็นต่าง เพื่อลดการเผชิญหน้า ซึ่งสถาบันพระปกเกล้ามีข้อกังวลว่า หากมีตัวแทน 7 ฝ่าย อาจทำให้รัฐบาลกลายเป็นเสียงข้างมากและไม่ได้รับความไว้วางใจและมีโอกาสที่พรรคฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมสูงหาตัวแทนผู้ชุมนุมเข้าร่วมยาก
ส่วนรูปแบบที่ 2 คือ มีคนกลางตามที่แต่ละฝ่ายเสนอให้เข้ามาเป็นกรรมการ โดยการเสนอจากทุกฝ่าย หรือ ให้ประธานรัฐสภาไปสรรหาบุคคล หรือประธานรัฐสภาตั้งประธานคณะกรรมการและให้ประธานกรรมการไปคัดเลือกบุคคลเข้ามา ซึ่งยังไม่แน่ใจว่า กรรมการที่จะไปทาบทามนั้น จะตอบรับเข้าร่วมหรือไม่ สถาบันพระปกเกล้ามองว่ามีข้อดีคือ รัฐสภาจะเป็นพื้นที่แก้ปัญหาสำคัญของชาติ ส่วนข้อกังวลนั้น คือ ประธานและกรรมการจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่
หลังจากนี้ จะนำทั้ง 2 รูปแบบ ไปพิจารณาว่าในรูปแบบแรกจะสามารถดำเนินการหาบุคคลได้ครบถ้วนหรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็จะนำรูปแบบที่ 1 มาผสมกับรูปแบบที่ 2 ซึ่งจะใช้จำนวนคนไม่มาก แต่จะต้องสามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้นอกจากนี้ได้มีการพูดคุยกับอดีตนายกรัฐมนตรี 3 คน ซึ่งหลายคนสนับสนุนการตั้งกรรมการแต่ส่วนหนึ่งยังขอรอฟังความชัดเจนก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเดินทางไปทาบทามอดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภามาช่วยทำหน้าที่ เพราะถือเป็นฝ่ายปฏิบัติ
สำหรับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประธานรัฐสภากล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสัญญาณในการประชุมรัฐสภาแล้ว จึงเชื่อว่า วุฒิสภาจะสนับสนุน เพื่อลดความกังวลในสังคม ส่วนเรื่องการชุมนุมที่รัฐบาลดูแลอยู่แล้วนั้น หากมีส่วนที่สภาสามารถไปช่วยบรรเทาได้ ก็พร้อมดำเนินการ โดยให้สถาบันพระปกเกล้า เชิญบุคคลที่ผ่านหลักสูตรการปรองดองในสังคม มาคุยกัน มาหารือกัน เพื่อลดความขัดแย้งรุนแรง การคุกคาม เพื่อนำไปสู่ความปรองดอง อาทิ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาพูดคุยถึงทัศนะคติของนักศึกษา โดยในวันพรุ่งนี้ (3พ.ย.) จะคุยกับผู้นำฝ่ายค้านฯ และตัวแทนรัฐบาลเป็นการภายใน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการหารือ แม้จะไม่ได้เป็นตัวแทนกรรมการก็ตาม
ประธานรัฐสภา ยังกล่าวถึงข้อเรียกร้องที่ให้มีพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยถึงการปฏิรูปสถาบันฯ ว่า การพูดคุยสามารถตั้งธงได้ แต่จะต้องเป็นไปตามมติคณะกรรมการที่กำหนดว่า จะให้มีการหารือเรื่องสถาบันหรือไม่ แต่ไม่อยากให้นำสถาบันเข้ามาเป็นเงื่อนไข เพราะตามรัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้