นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุราษฏร์ธานีและจังหวัดภูเก็ตให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานทุกภาคส่วน เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี และจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก มาตรการคัดกรองและกักกันโรคผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยจึงมีความสำคัญ


นายอนุทิน ระบุว่า สนามบินสมุยเตรียมพร้อมตั้งแต่รถรางลำเลียงผู้โดยสารที่ลงจากเครื่องบิน นำเข้าไปยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศผ่านด่านคัดกรองทำความสะอาดมือและรองเท้า วัดไข้ หากพบว่าอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือเข้าเกณฑ์ผู้ป่วย จะนำไปสอบสวนโรคที่ห้องแยกกัก พร้อมรายงานข้อมูลตามระบบ และส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเกาะสมุยแต่ถ้าวัดอุณหภูมิผ่านจะตรวจเอกสารรับรองการเดินทางเข้าประเทศ หรือ Fit to Fly, ผลตรวจปลอดเชื้อโควิด-19 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง, ใบจองโรงแรมกักตัวแบบทางเลือก,หนังสือเดินทาง,ประกันสุขภาพ 1 แสนเหรียญ,ใบ ตม.,แอปพลิเคชัน Samui Health Pass และแอปพลิเคชัน COSTE หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการศุลกากรแล้วโรงแรมกักตัวจะมารับนักท่องเที่ยวไปลงทะเบียน ฆ่าเชื้อที่กระเป๋าเดินทางแล้วพาไปกักตัว 14 วันที่โรงแรม

.jpg)
ส่วนสนามบินภูเก็ต ก็มีระบบคัดกรองผู้โดยสารเช่นกัน โดยจะส่งตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11/1 จังหวัดภูเก็ต และโรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ สามารถออกผลตรวจได้ภายใน 1 วัน มีการใช้ระบบแอปพลิเคชันติดตามตัว มีมาตรการเชิงรุกเตรียมแผนเฝ้าระวังค้นหาในสถานพยาบาล ชุมชนพื้นที่เสี่ยง ประชากรกลุ่มเสี่ยง และเฝ้าระวังผู้ป่วยกลุ่มอาการและโรคทางเดินหายใจ โรคปอดอักเสบ รวมถึงมีความพร้อมด้านสถานที่กักกันระดับจังหวัด (Local Quarantine) และสถานที่กักกันทางเลือก (Alternative Local Quarantine) ซึ่งผู้กักกันต้องชำระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดเช่นกัน