นพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เตือนว่า เทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า หรือ Thanksgiving Day อาจเป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ย่ำแย่ลง และคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ขั้นวิกฤตในเดือนธ.ค.2563 นายก็อตต์ลิเอ็บ กล่าวกับรายการ Face the Nation ทางสถานีโทรทัศน์ CBS ว่าสถานการณ์กำลังย่ำแย่ลง และเขาเชื่อว่าช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าจะเป็นจุดเปลี่ยน โดยเดือนธ.ค.อาจจะเป็นเดือนที่หนักที่สุด และไม่สามารถคาดได้ว่าแม้จะมีการล็อกดาวน์จะคุมโควิด-19 ได้ ทั้งนี้ นายก็อตต์ลิเอ็บ เรียกร้องให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย และยังเรียกร้องให้สภาคองเกรสออกมาตรการช่วยเหลือ
ความเห็นของนายก็อตต์ลิเอ็บ สอดคล้องกับคำกล่าวของนพ.แอนโทนี ฟาวซี แพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว ที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ เมื่อสุดสัปดาห์ว่า สถานการณ์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะย่ำแย่ลง แต่หลังจากนั้นไม่นานทำเนียบขาวได้ออกมาตำหนินายฟาวซี โดยระบุว่านายฟาวซีโยงเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 กับการเมือง
นอกจากนี้ นพ.ฟาวซี กล่าวว่า ชาวอเมริกันจำนวนมากอาจไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้จนกว่าจะถึงปลายปี 2564 หรือในปี 2565 พร้อมกับกล่าวว่า สถานการณ์ที่เลวร้ายลงภายในประเทศมีสาเหตุมาจาก ความแตกแยกของรัฐต่างๆ ในการปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขภาพ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย หากทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ คิดว่าเราคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ การสวมหน้ากากอนามัยในสหรัฐฯเกือบจะกลายเป็นเรื่องทางการเมืองไปแล้ว
แฟ้มภาพ