สธ.ชี้แจง อ.แม่สอด ปลอดภัย ส่วนที่เกาะสมุย คุมโควิด-19 ได้
การตรวจซ้ำในจุดที่พบการติดเชื้อโควิด-19 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดี
1.พื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก สามารถควบคุมสถานการณ์โรค
-ต่อไปจะเฝ้าระวังเชิงรุกใน 2 ส่วน คือ กลุ่มเปราะบางในชุมชน เช่น โรงงาน และในโรงพยาบาล คือ ผู้ป่วยโรคปอดบวมสัปดาห์ละ 10 คน หากมีผู้ป่วยมากกว่าจำนวนนี้ให้ตรวจหาเชื้อทุกคน ผู้ป่วยคลินิกโรคทางเดินหายใจสุ่มตรวจวันละ 10 คน หากไม่พบการติดเชื้ออีกไม่เกินสัปดาห์ก็เข้าสู่สถานการณ์ปกติและสิ้นสุดการระบาด
2.กรณีหญิงฝรั่งเศสอายุ 57 ปี ตรวจพบการติดเชื้อที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แม้จะมีอาการและเจอเชื้อในปริมาณมาก แต่ผู้ป่วยมีสุขอนามัยที่ดีไปในที่สาธารณะไม่มาก ขณะที่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลในพื้นที่รู้มาตรการดี มีการเฝ้าระวังป้องกันการติดเชื้อ ประชาชนที่เกาะสมุย ร่วมมือใส่หน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90 ถือว่าสถานการณ์อยู่ในระดับควบคุมได้ คาดว่า จะเป็นรูปแบบของ Spike คือ เจอผู้ติดเชื้อ 1-2 คน และควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อต่อได้
โปรตุเกส เข้มสกัดโควิด-19 ใน 121เขต-ออสเตรีย เริ่มใช้เคอร์ฟิว 3 พ.ย.
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป
-เบลเยียม ใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.-13 ธ.ค.2563 ปิดร้านค้าที่ไม่จำเป็นทั้งหมด แต่ยังคงให้บริการรับส่งสินค้าที่บ้านได้
-สหราชอาณาจักร พิจารณาล็อกดาวน์ 1 เดือนทั่วประเทศ
-ฝรั่งเศส ล็อกดาวน์รอบใหม่ จะบังคับใช้ถึงสิ้นเดือนพ.ย.นี้เป็นอย่างน้อยห้ามประชาชนออกจากบ้าน ยกเว้นกรณีการซื้อสินค้าจำเป็น พบแพทย์ หรือออกกำลังกาย แต่ต้องไม่เกิน 1 ชั่วโมง สื่อท้องถิ่น รายงานว่าก่อนวันล็อกดาวน์ ประชาชนในกรุงปารีส เดินทางออกนอกเมืองเพื่อไปล็อกดาวน์ในชนบท ส่งผลให้รถติดยาว
-ออสเตรีย นายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน คัวร์ซ ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 20.00-06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 02.00-12.00 น.ตามเวลาในไทยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ถึงสิ้นเดือนพ.ย.2563 พร้อมทั้งยกระดับมาตรการทางสังคมขึ้นด้วย การเดินทางออกจากบ้านต้องมีเหตุผลจำเป็น ร้านอาหารและคาเฟ่ ต้องปิดให้บริการในร้าน อนุญาตเพียงจำหน่ายกลับบ้านหรือส่งตามบ้านเท่านั้น ขณะที่การพบปะสังสรรค์ไม่ได้รับอนุญาต การพักค้างคืนตามโรงแรมต้องเพื่อวัตถุประสงค์ด้านธุรกิจ หรือภาระงานซึ่งจำเป็นเท่านั้น ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงละคร และโรงยิม ต้องปิดทำการ ส่วนสถานศึกษาและศาสนสถานยังเปิดได้แต่ต้องเข้มงวดมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด แต่โรงเรียนระดับมัธยมถึงมหาวิทยาลัยให้เรียนออนไลน์ รวมทั้งให้บริษัทเอกชนจัดเวลาให้พนักงานทำงานที่บ้าน
-โปรตุเกส เพิ่มมาตรการเข้มงวดป้องกัน
นักวิชาการ ชี้หาก ไบเดน ชนะเลือกตั้ง เอื้อศก.ของไทยและเอเชีย
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยสถานการณ์การเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ตลาดการเงินโลก เศรษฐกิจไทยมากกว่าประเด็นการตัดจีเอสพี โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทยในส่วนที่เชื่อมโยงกันเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากเป็นพิเศษ
1.กรณีที่นายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งอย่างเด็ดขาดจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินโลกมากที่สุด แม้นายไบเดน จะมีนโยบายเก็บภาษีเพิ่มทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 21 เป็นร้อยละ 28 เก็บภาษีบุคคลธรรมดาเพิ่มจากร้อยละ 37 เป็นร้อยละ 39 และวางแผนจะเก็บภาษีเงินกำไรจากเงินลงทุน (Capital gain tax) โดยเก็บจากคนที่รายได้ตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปีขึ้นไป นโยบายการเก็บภาษีเหล่านี้เพื่อไม่ต้องตัดลดสวัสดิการสำหรับผู้มีรายได้น้อย จะมีผลต่อธุรกิจใหญ่ๆและนักลงทุนในตลาดหุ้นอยู่บ้าง
-การยกเลิกนโยบายกีดกันทางการค้าและชาตินิยมทางเศรษฐกิจรวมทั้งการเกิดสงครามทางการค้าลดลงจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกและการค้าโลกในภาพรวม
-ตลาดหุ้นในเอเชียบวกขึ้นและเศรษฐกิจไทยดีขึ้น
-สนับสนุนพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกมากขึ้น
-แรงงานจะได้ปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชั่วโมง
-ธุรกิจอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมนุษย์เข้มข้นจะย้ายฐานมาทางเอเชียมากขึ้น
-ความสัมพันธ์กับยุโรปน่าจะดีขึ้น เพราะนายไบเดน ไม่ได้มีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีข้อพิพาทเรื่องการจัดเก็บภาษีดิจิทัลของรัฐบาลในยุโรป
2.กรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง อาจเป็นผลดีต่อธุรกิจขนาดใหญ่และตลาดหุ้นสหรัฐฯในระยะสั้น เพราะจะมีการยืดมาตรการ Tax cuts and Jobs Act ต่อไปอีก กลุ่มธุรกิจพลังงานแบบเดิมน่าจะได้ประโยชน์
-สงครามทางการค้าและลัทธิชาตินิยมทางเศรษฐกิจจะเข้มข้นมากขึ้นไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินโลกโดยรวม
-หากผลการเลือกตั้งออกมาไม่ชัดเจน มีการชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งหรือศาลสั่งให้นับคะแนนใหม่ กรณีนี้จะส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกผันผวนในช่วงปลายปีและต้นปีหน้ามากที่สุด