ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2563

02 พฤศจิกายน 2563, 08:53น.


วันนี้น้ำจากเขาใหญ่-ทับลาน ไหลลงมาท่วมตลาดเก่ากบินทร์บุรี ปราจีนบุรี



           วันนี้ มวลน้ำจากฝนที่ตกหนักในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลท่วมคลองวังมืดและคลองยางในปริมาณมากกว่าทุกปี มวลน้ำดังกล่าวจะไหลลงแควหนุมานและแม่น้ำปราจีนบุรีอาจจะทำให้น้ำท่วมตลาดเก่ากบินทร์บุรี สูงประมาณ 50-70 เซนติเมตร นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ให้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



          สำหรับอ่างเก็บน้ำทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่มีน้ำล้นทางระบายน้ำฉุกเฉิน (Spillway) กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำและตรวจสอบสภาพอาคารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และยังคงมีความมั่นคงแข็งแรงดี





          ส่วนบริเวณอุโมงค์ทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่เกิดน้ำท่วมขัง ปัจจุบันรถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้แล้ว บริเวณบ้านทุ่งแฝก อ.นาดี ขณะนี้ระดับน้ำลดลงประมาณ 1.50 เมตร สามารถสัญจรได้ และมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ





ระบายน้ำจากเขื่อนมูลบน นครราชสีมา เตือนหลายอำเภอลุ่มต่ำริมตลิ่ง



           ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำมูลบน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำมูลบนเพิ่มขึ้น เมื่อวานนี้ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 148 ล้าน ลบ.ม. สูงกว่าระดับเก็บกักประมาณ 7.20 ล้าน ลบ.ม. กรมชลประทาน ระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำล้นในอัตรา 7.37 ลบ.ม./วินาที สถานการณ์น้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งบริเวณอำเภอครบุรี อำเภอโชคชัย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมือง ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ



          ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมามีพายุที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย 5 ลูก ได้แก่ ซินลากู ฮีโกส โนอึล หลิ่นฟา และโมลาเบ รวมทั้งหย่อมความกดอากาศต่ำ ส่งผลดีทำให้แหล่งน้ำในลุ่มน้ำมูลมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 560 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้สภาพน้ำในลำน้ำปัจจุบันยังมีสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ บ้านโนนสะอาด อ.โชคชัย บ้านด่านกะตา อ.เฉลิมพระเกียรติ และบ้านน้ำซึม อ.พิมาย มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง



CR:กรมชลประทาน,จังหวัดนครราชสีมา



พายุโคนี ถล่มฟิลิปปินส์ เสียชีวิต 10 ราย-ย้ายผู้ป่วยโควิด-19 หนีพายุ



           ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี ถล่มจังหวัดคาตันดัวเนส ฝั่งตะวันออกของฟิลิปปินส์ เมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ 1 พ.ย.2563 ทำให้หลายเมืองไฟดับ อพยพประชาชนราว 1,000,000 คน ในพื้นที่ที่พายุพัดผ่านเนื่องจากพายุพัดด้วยความเร็วลม 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมุ่งหน้าทางด้านตะวันตกเข้าสู่พื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น ซึ่งรวมถึงกรุงมะนิลาที่มีประชากรกว่า 13 ล้านคน เบื้องต้นมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตประมาณ 10 ราย  แต่เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ระบุว่า ยังต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อน





           สำนักงานพยากรณ์อากาศ ระบุว่า หลังจากขึ้นฝั่งราว 2 ชั่วโมง ไต้ฝุ่นโคนี เข้าถล่มเมืองอัลไบ นายอัล ฟรานซิส ผู้ว่าการจังหวัดอัลไบ กล่าวในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยงานรับมือภัยพิบัติว่า มีผู้เสียชีวิต 2 ราย



          สนามบินหลักของกรุงมะนิลา ปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันจันทร์ ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งในและระหว่างประเทศหลายสิบเที่ยวบิน ขณะที่ทหารและตำรวจ ตลอดจนถึงหน่วยยามฝั่งเตรียมพร้อมเต็มพิกัด



          ขณะที่ ผู้ป่วยโควิด-19 หลายร้อยคนได้รับการเคลื่อนย้ายจากเต็นท์ในศูนย์กักกันไปที่โรงพยาบาลและโรงแรม การเตรียมพร้อมรับมือซูเปอร์ไต้ฝุ่นลูกนี้ทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันมากที่สุดอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          พายุโคนี มีความรุนแรงมาก เตือนให้นึกถึงไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเมื่อเดือนพ.ย. 2013 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 7,300 คน หมู่บ้านหลายแห่งราบเป็นหน้ากลอง พายุพัดเรือเกยขึ้นฝั่ง และประชาชนกว่า 5,000,000 คน ในตอนกลางของฟิลิปปินส์ไม่มีที่อยู่อาศัย

          กรมอุตุนิยมวิทยาของไทย รายงานเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ 2 พ.ย.2563 พายุโซนร้อน โคนี บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ได้เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางแล้ว มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงก่อนเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 4-5 พ.ย. 2563 ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก



ส.อ.ท.เสนอ 6 ด้านขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคใต้ต่อการประชุม ครม.สัญจร



          นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล) เตรียมเสนอประเด็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นอกสถานที่วันที่ 3 พ.ย. 2563 รวม 6 ด้าน



1.ด้านการเกษตร ขอให้ภาครัฐ ขับเคลื่อนโครงการไทยแลนด์กรีนรับเบอร์ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยางไทยสู่สากลเพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางยางพาราโลก อุตสาหกรรมยางพารา เกี่ยวข้องกับเกษตรกรกว่า 1,700,000 คน และยังเป็นไม้เศรษฐกิจที่สร้างรายได้จากการส่งออกของไทยมูลค่าเฉลี่ยปีละกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มยางพารามากขึ้น เอกชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขระเบียบในการแปรรูปยางพาราให้สอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมการใช้สินค้าไทย หรือ Made in Thailand มีการส่งเสริมให้เกิดการจัดการป่าไม้แบบยั่งยืนเป็นไปตามมาตรฐานสากล




2. ด้านการท่องเที่ยว ประเด็นเร่งด่วนอยากให้ช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยจะต้องหารือในที่ประชุม ครม.อีกครั้ง นายกิจก้อง ตันติจรัสวโรดม ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ กล่าวว่า ส.อ.ท.ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ต้องการให้ภาครัฐ หามาตรการในการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของธุรกิจด้านท่องเที่ยวโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) เช่น ขอให้พักชำระเงินต้นและลดดอกเบี้ยให้เหลือร้อยละ 2 เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี เป็นต้น




          นอกจากนี้ ยังขอให้ภาครัฐเร่งผลักดันยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมมารีนาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล เช่น การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 การแก้ไขประกาศกรมศุลกากรจังหวัดภูเก็ต ให้เรือสำราญพำนักอยู่ในประเทศไทย สามารถจอดเรือได้เป็นระยะเวลา 3 ปี และให้เรือที่เจ้าของเรือไม่ได้เข้ามาด้วย สามารถจอดเรือได้เป็นระยะเวลา 3 ปีเช่นกัน พร้อมกันนี้ ต้องการให้รัฐส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือและซ่อมเรือ โดยการเร่งปรับแก้สีผังเมืองจากสีเขียวเป็นสีม่วงบริเวณที่ติดทะเลตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 เพื่อให้ทำอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือและซ่อมเรือได้ ซึ่งขณะนี้มีเอกชนสนใจลงทุนหลายราย



3. ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต



4. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน



5. ด้านทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม



6. มาตรการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ




 



 




 

ข่าวทั้งหมด

X