'หมอธีระ' ย้ำต้องตรวจหาเชื้อให้มาก เพราะไทยเสี่ยงโควิด-19 ระบาดซ้ำ รอวันปะทุ

          รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thira Woratanarat” เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ย้อนดู timeline ของไทย

-ไทยเปิดเฟสหกช่วงปลายเดือนก.ค.- ต้นส.ค.2563

-จากนั้น 6 สัปดาห์ (กลางเดือนก.ย.) เจอเคสดีเจติดเชื้อในประเทศที่หาต้นตอไม่ได้ รวมถึงเคสอื่นๆ ในเวลาใกล้เคียงกันทั้งเคสนักฟุตบอลต่างชาติ และเคสผู้หญิงที่กลับจากต่างประเทศ เข้ากักตัว 14 วัน ตรวจไม่พบทั้งสองครั้ง แต่ต่อมากลับมาตรวจพบหลังออกจากการกักตัว สอดคล้องกับธรรมชาติที่สังเกตเห็นจากประเทศอื่นๆ ที่มักเจอเคสติดเชื้อในประเทศภายใน 4-6 สัปดาห์ หลายประเทศมักประสบปัญหาการแพร่กระจายของเชื้อในอีกราว 6 สัปดาห์หลังจากนั้น หากไม่มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพของไทย เงื่อนเวลาอาจมีการเหลื่อมไปได้บ้าง เพราะทยอยดำเนินมาตรการเป็นช่วงๆ แต่ลักษณะการเปลี่ยนแปลงก็ยังสอดคล้องกับบทเรียนของประเทศอื่นๆ

-เคสชาวฝรั่งเศสที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รวมถึงอีกหลายกรณีในช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว เป็นไปได้ว่าเชื้อมาจากต่างประเทศและติดภายในประเทศ แต่สุดท้ายมีความเป็นไปได้สูงที่จะสรุปหาต้นตอไม่ได้ เช่นเดียวกับบทเรียนระบาดซ้ำในประเทศอื่นๆ

          การที่เราเห็นซีรีย์ของเคสที่ตรวจสอบหาต้นตอไม่ได้ คือ สัญญาณเตือนดังลั่นว่าการระบาดซ้ำนั้นมีความเป็นไปได้สูง และเหมือนรอวันปะทุ นอกจากจะพยายามย้ำเตือนให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยการใส่หน้ากากอนามัยเสมอหน่วยงานรัฐก็ควรรีบขยายระบบบริการตรวจโควิด-19 ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และรณรงค์ให้ประชาชนทราบเพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการตรวจได้ง่ายและทันเวลา เพราะคือหัวใจสำคัญในการรับมือการระบาดซ้ำ มิใช่เพียงแค่เรื่องการเจาะตรวจเฉพาะกลุ่มเสี่ยงและการติดตามตัวผู้สงสัยเท่านั้น ตรวจน้อย ก็เจอน้อย ไม่ตรวจ ก็ไม่เจอ แต่หากมีการติดเชื้อระบาดซ้ำขึ้นโดยไม่ได้ตรวจหรือตรวจน้อย กว่าจะรู้ตัวก็กระจายไปทั่วแล้ว

แฟ้มภาพ