ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมิน'เฟด'ยังไม่ปรับนโยบายการเงินช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯ คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.0-0.25%

          สหรัฐฯ จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 3 พ.ย.2563 ก่อนการประชุมนโยบายการเงินเพียง 1 วัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.0-0.25 สำหรับการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 4-5 พ.ย.2563 เฟดมีแนวโน้มที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ ส่อเค้าที่จะนำมาซึ่งความวุ่นวายและการรับรองผลการเลือกตั้งที่อาจยืดเยื้อ เนื่องจากประชาชนจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะเลือกตั้งผ่านทางไปรษณีย์ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ และถ้าเกิดกรณีที่การรับรองผลการเลือกตั้งล่าช้าออกไปหลังจากวันที่ 20 ม.ค. 2564 ซึ่งเป็นวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จนทำให้สหรัฐฯ เผชิญสูญญากาศทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง และไม่สามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในช่วงต้นปีหน้า จะส่งผลทำให้แรงกดดันกลับมาอยู่ที่เฟดในการออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นและประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้

          อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางของนโยบายการคลังและการเงิน ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังเผชิญความเสี่ยงสูง

นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต มีนโยบายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

-นายทรัมป์ มีนโยบายที่จะลดภาษีเพิ่มเติม

-นายไบเดน มีนโยบายที่จะขึ้นภาษีเพื่อรองรับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากนายไบเดน ชนะการเลือกตั้งและพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา จะทำให้พรรคเดโมแครต สามารถผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ได้ง่าย มีแนวโน้มที่จะขาดดุลทางการคลังเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งอาจหนุนให้อัตราเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ เร่งสูงขึ้นในระยะข้างหน้า จะทำให้เกิดความท้าทายในการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับใกล้ศูนย์ของเฟด

           ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เฟดจะยังไม่ลดระดับการผ่อนคลายทางการเงินและปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงสูง ทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประเด็นทางการเมือง และประเด็นความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มยังไม่ฟื้นตัว น่าจะใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะฟื้นตัว

แฟ้มภาพ