*สน.บางยี่เรือคาด15วันรู้ผลดีเอ็นเอฆ่ายกครัว5ศพมุ่งเป้าเหตุเกิดจากน้อยใจ*

ความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุการเสียชีวิตยกครัว 5 ศพ ภายในบ้านเลขที่ 174 ซอยอินทรพิทักษ์ 1 แยก 2 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี เมื่อคืนนี้  พ.ต.ท. เทพวิสิทธิ์ โพธิเก่งฤกธิ์ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลบางยี่เรือ เปิดเผยว่า คดีนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ข้อหา ได้แก่ การฆาตกรรมและการฆ่าตัวตาย ค่อนข้างมั่นใจว่า1ใน5ศพเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ คาดว่าภายใน15วัน จะทราบผลการตรวจชันสูตรศพและผลตรวจดีเอ็นเอเพื่อให้ทราบสาเหตุการเสียชีวิตตามหลักวิทยาศาสตร์และรอยนิ้วมือบริเวณปากกาที่เขียนจดหมายลาตายและรอยนิ้วมือที่มีดและขวดน้ำอัดลมจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และสามารถสรุปสำนวนได้ไม่เกิน 1 เดือน และหากผู้ก่อเหตุเป็นหนึ่งในห้าผู้เสียชีวิตตามที่คาดไว้ คดีดังกล่าวก็ยุติ เพราะผู้ก่อเหตุเสียชีวิตแล้ว

ส่วนการตรวจสอบจดหมายลาตายจำนวน 3 แผ่น คาดว่าเป็นลายมือของนางสาวสุวรรณทิพย์ จารุพรรณจิต  อายุ 17 ปี บุตรสาวนาย อนันต์ จารุพรรณจิต อายุ 64 ปี หัวหน้าครอบครัวที่เสียชีวิต  ซึ่งเขียนแสดงความตัดพ้อเชิงประชดถึงนาง อุไรวรรณ เสริมศักดิ์ ผู้เป็นมารดาว่ามารดาไม่เคยใส่ใจและทอดทิ้งพ่อกับตัวเองให้ลำบาก นอกจากนี้ยังพบมีดปลอกผลไม้ 2 ด้ามและน้ำอัดลมวางใกล้ศพที่แขวนคอเรียงกัน 3 ศพ คือศพนายอนันต์ นางสาวสุวรรณทิพย์ และด.ช.วัย 14 ปี น้องชายนางสาวสุวรรณทิพย์ สันนิษฐานว่าเป็นมีดที่ใช้ตัดเชือกไนลอนเพื่อนำมาผูกคอ โดยยังพบว่า นายอนันต์ได้เดินไปซื้อเชือกดังกล่าวมาจากร้านหน้าปากซอยก่อนเกิดเหตุ 1 วัน  แสดงให้เห็นว่ามีการวางแผนเตรียมการล่วงหน้าก่อนจะลงมือ และยังพบยาผงสีชมพู ที่คาดว่าเป็นยาเบื่อหนู วางไว้ใกล้กับศพของนางเคี้ยงเกี้ยง แซ่ลิ้ม อายุ 89 ปี มารดาของนายอนันต์ที่ป่วยเป็นโรคประสาทและเป็นอัมพาตด้วย  ซึ่งได้เก็บไปตรวจสอบแล้ว ส่วนการตรวจสอบสภาพแวดล้อมในบ้านที่เป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่ง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้รื้อค้นสิ่งของหรือคราบเลือดใดๆ อีกทั้งการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก็ไม่พบว่าบุคคลในบ้านเคยต้องคดีอาญาหรือคดีแพ่ง และจากการสอบถามเพื่อนบ้านยังพบว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านที่เงียบสงบ ไม่สุงสิงกับใคร แต่มักดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ  ส่วนการถูกไล่ที่คืน พบว่าไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุนี้ เพราะนาย อนันต์ ส่งเงินค่าเช่าบ้านครบทุกงวดและตรงเวลา แม้จะมีฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจน แต่ก็ไม่พบว่าเคยมีประวัติด้านหนี้สิน และพบว่าเตรียมย้ายบ้านไปอยู่ใกล้กับนาง อุไรวรรณ บริเวณโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตอีกคนคือ นางเพชรรัตน์ จารุพรรณจิต น้องสาวนายอนันต์ ป่วยเป็นโรคประสาท  

สำหรับคดีดังกล่าว ตำรวจมุ่งเป้าไปที่ประเด็นการน้อยใจมารดา สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุเป็นลูกสาวหรือไม่ก็บิดา และอาจเป็นได้ว่าบิดาร่วมกับลูกสาวก่อเหตุฆ่ายกครัว ล่าสุดตำรวจเชิญนางอุไรวรรณมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้ติดต่อกลับมา ส่วนการลงมือก่อเหตุ คาดว่า เป็นการให้ทานยาที่ออกฤทธิ์ควบคุมประสาท ทำให้ผู้รับยามีอาการเบลอ และคล้อยตามผู้อื่นง่าย โดยนำยาผสมลงในน้ำอัดลมแล้วให้ดื่ม เพราะส่วนตัวมองว่าเป็นการยากที่บังคับให้เด็กและน้องสาวฆ่าตัวตายเอง ทั้งนี้ยังไม่พบบาดแผลใดๆของศพ เว้นเพียงบาดแผลบริเวณใกล้หน้าผากของนางเคี้ยงเกี้ยงเท่านั้น ไม่น่าใช่การใช้วัตถุมีคมทำให้เสียชีวิต

ธีรวัฒน์