‘ทรัมป์-ไบเดน’ เร่งหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่มีผู้ลงคะแนนล่วงหน้ามากกว่า 82 ล้านคนแล้ว

          อีก 4 วันจะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งมีชาวอเมริกันมากกว่า 82 ล้านคนที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วนับเป็นสถิติการลงคะแนนล่วงหน้ามากที่สุดของการเลือกตั้งสหรัฐฯ ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่มีความรุนแรง โดยผลการสำรวจหน้าคูหาเลือกตั้งพบว่าผู้ที่ไปลงคะแนนล่วงหน้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้สนับสนุนนายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ขณะที่ผู้สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันต่างยืนยันการไปลงคะแนนในวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายน

          แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) ผู้ลงสมัครจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างลงพื้นที่หาเสียงในรัฐเดียวกันในเขตมิดเวสต์ ทั้งมิชิแกน วิสคอนซิน และมินนิโซตา ซึ่งเป็นรัฐที่มีฐานเสียงในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน โดยหัวข้อที่นำมาใช้ปราศรัยหาเสียงจะเกี่ยวกับโควิด-19 เป็นหลัก ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์อ้างว่า เขาสามารถรับมือได้ดีแล้ว แต่นายไบเดนชี้ว่าตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตคือหลักฐานยืนยันถึงความล้มเหลว

         โดยในการลงพื้นที่หาเสียงในวันศุกร์ (30 ต.ค.) ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงพื้นที่หาเสียงที่รัฐมินนิโซตา และกล่าวตำหนินายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐ ที่มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมการรับฟังการหาเสียงไว้ที่ 250 คน ซึ่งเขาเห็นว่านายวอลซ์เป็นผู้ว่าการรัฐที่อ่อนแอ

          ส่วนนายไมค์ เพนซ์ ในฐานะผู้สมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ของประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวกับผู้สนับสนุนที่แอริโซนา ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก 4 ปี ทั้งวิจารณ์นางกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีของนายไบเดน ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มวุฒิสมาชิก 10 คนที่ออกเสียงคัดค้านข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยกล่าวหาว่าเธอมีนโยบายในการทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา

          ด้านพรรคเดโมแครต นายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคกล่าวกับผู้สนับสนุนเกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหาบุคลากรทางการแพทย์เจตนาเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพื่อหวังเงินตอบแทนจากการทำงาน ซึ่งนายไบเดน กล่าวว่า เป็นคำกล่าวที่สร้างความเสียหายต่อวิชาชีพแพทย์ และเรียกร้องให้ประธานาธิบดียุติการแสดงความเห็นที่เป็นการโจมตีบุคลากรทางการแพทย์

          ส่วนการนับคะแนนของผู้ที่ใช้สิทธิทางไปรษณีย์ในรัฐสวิงสเตท โดยเฉพาะในรัฐเพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน คณะกรรมการการเลือกตั้งคาดว่าการนับคะแนนอาจต้องใช้เวลานานหลายวัน ซึ่งที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์คัดค้านการใช้สิทธิทางไปรษณีย์มาโดยตลอด เพราะเห็นว่าสามารถโกงผลคะแนนได้โดยง่าย และล่าสุดเขาเรียกร้องไม่ให้นับบัตรลงคะแนนที่ส่งมาถึงหน่วยเลือกตั้งกลางหลังวันที่ 3 พฤศจิกายน เพราะจะดีกว่าหากประชาชนได้ทราบว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีภายในวันเลือกตั้ง แทนที่จะต้องรอการนับคะแนนถึง 2 สัปดาห์ ทั้งเห็นว่าควรถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามพรรคเคโมแครต ระบุว่าการที่ประธานาธิบดีเรียกร้องเช่นนี้ก็เพราะผู้ใช้สิทธิล่วงหน้าและทางไปรษณีย์ส่วนใหญ่คือฝ่ายเดโมแครต

.....