เหลืออีก 5 วัน สหรัฐฯจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน แต่ทั้ง 50 รัฐของสหรัฐฯ จัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้า 2 สัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง ในปีนี้ชาวอเมริกันที่มีสิทธิ์เลือกตั้งมีจำนวนกว่า 245 ล้านคน จากการติดตามองค์กร เดอะยูไนเต็ด สเตทส์ อเล็คชันส์ โพรเจ็ค (The United States Elections Project) พบว่า มีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ากว่า 80 ล้านคน มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2451
โดยเฉพาะรัฐเท็กซัส ซึ่งโดยปกติมีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในอัตราต่ำที่สุดของประเทศ ปรากฏว่าปีนี้มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากเป็นอันดับที่หนึ่งของประเทศคือ 8,450,000 คน คิดเป็นร้อยละ 94 ของจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งรวม 8,970,000 คนในปี 2559 รองลงมาคือ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า 8,400,000 คน อันดับที่ 3 คือรัฐฟลอริดา มีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ากว่า 7,300,000 คน
สำหรับเหตุผลในการไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้า มีหลายสาเหตุเช่น เพื่อลดความแออัดของประชาชนที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และดูเพื่อให้บรรดาคนงานที่ไม่สามารถจะลาหยุดในช่วงวันเลือกตั้งจริงไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ด้านศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อวิจัยเรื่องการเรียนรู้และร่วมทำกิจกรรมของภาคประชาชน มหาวิทยาลัยทัฟส์ สหรัฐฯระบุว่า คนรุ่นหนุ่มสาวอายุระหว่าง 18-29 ปี กว่า 5,000,000คนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในปีนี้ รวมถึงคนรุ่นหนุ่มสาว 3,000,000คนใน 14 รัฐสวิงสเตท หรือรัฐที่ทั้งสองพรรคมีโอกาสแพ้ชนะเท่าๆกันเช่น รัฐจอร์เจีย เพนซิลเวเนียและรัฐวิสคอนซิน
ส่วนการตระเวนหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันและนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตจะเน้นลงพื้นที่หาเสียงในรัฐสวิงสเตทในแถบมิดเวสต์ เช่น ไอโอวา, มิชิแกน, มินนิโซตาและรัฐวิสคอนซิน โดยนายไบเดนจะไปหาเสียงในเมืองดิมอยน์ รัฐไอโอวา, เมืองเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา และเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ขณะที่นายทรัมป์จะไปหาเสียงที่สนามบินเมืองวอเตอร์ฟอร์ด ทาวน์ชิป รัฐมิชิแกน และเมืองกรีนเบย์ รัฐวิสคอนซิน
Cr: CNN