สถาบันพระปกเกล้าเร่งออกแบบโครงสร้างคณะกรรมการปรองดองฯ

          ความคืบหน้าการออกแบบโครงสร้างและรูปแบบวิธีการทำงานของคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ ที่สถาบันพระปกเกล้าได้รับมอบหมายจากนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ  นายวุฒิสาร ตันไชย  เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า  เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิของสถาบันพระปกเกล้า  เพื่อออกแบบโครงสร้างและรูปแบบวิธีการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้   ขณะนี้อยู่ระหว่างคิดค้นโครงสร้างที่เหมาะสม โดยเฉพาะโครงสร้างกรรมการปรองดองในอดีตและข้อเสนอที่เกิดขึ้นจากการอภิปรายหาทางออกร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 26-27 ต.ค. ที่ผ่านมาว่ามีอะไรบ้าง  ก่อนจะรวบรวมเสนอต่อประธานรัฐสภา อย่างเร็วสุดในวันที่ 2 พ.ย.นี้  โดยจะเสนอให้เห็นว่าโครงสร้างแต่ละโครงสร้างมีข้อดีข้อเสีย และข้อจำกัดอย่างไรบ้าง   รวมถึงข้อห่วงใยของสถาบันฯด้วย แต่ยอมรับว่า เงื่อนไขในการตั้งคณะกรรมการปรองดองครั้งนี้  ยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการไปถึงจุดไหนอย่างไร   อะไรที่เป็นเนื้อหาที่ต้องเอามาพูดคุยบ้าง  ดังนั้นสถาบันฯ จึงออกแบบได้เพียงโครงสร้างและวิธีการทำงานในเชิงหลักการวิชาการเท่านั้น  รวมถึงรวบรวมประสบการณ์จากต่างประเทศมานำเสนอด้วย   

          ส่วนโครงสร้างกรรมการชุดนี้จะมีองค์ประกอบใดบ้าง เป็นเรื่องที่ประธานรัฐสภาต้องกลับไปหารือผู้เกี่ยวข้อง สถาบันพระปกเกล้ามีหน้าที่เสนอทางเลือกต่างๆให้เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา มีการตั้งคณะกรรมการในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง  จะเห็นได้ว่าการทำงานของแต่ละคณะ  มีบรรยากาศและสถานการณ์ที่ไม่เหมือนกัน เพื่อให้เห็นเงื่อนไขในแต่ละด้าน ส่วนที่นายชวน เสนอให้มีทุกฝ่ายเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการปรองดองฯ นั้น เห็นว่าโดยหลักการแล้ว สถานการณ์ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องมีพื้นที่ให้แต่ละฝ่ายได้รับฟังกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วน พร้อมยืนยันว่าการรวบรวมทางออกครั้งนี้  ไม่ได้รวบรวมจากงานของสถาบันพระปกเกล้าเท่านั้น  แต่รวมถึงประสบการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์ที่แต่ละรัฐบาลมีมาด้วย 

          นายวุฒิสาร ย้ำว่า เงื่อนไขสำคัญของการออกแบบโครงสร้างคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ครั้งนี้ คือทำแล้วต้องให้มีความเชื่อมั่นว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้จริง ส่วนการคัดเลือกตัวบุคคลเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการปรองดองฯ ยืนยันว่ายังไม่มีการกำหนดรูปแบบหรือทาบทามบุคคลใดตามที่เป็นข่าว เพราะไม่มีหน้าที่ในการทาบทามตัวบุคคล และยอมรับว่าการทำหน้าที่ครั้งนี้ มีความกดดันแน่นอน แต่เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายในสังคมที่จะต้องทำให้เกิดอนาคตที่สังคมอยู่ร่วมกันได้ ทุกฝ่ายต้องใช้ความอดทน สติ ระงับตัวเองไม่ให้สร้างความรุนแรง เพื่อปกป้องไม่ซ้ำรอยเหมือนในอดีต