ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม สรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ของวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 508 ครั้ง เสียชีวิต 58 ศพและบาดเจ็บ 517 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี จำนวน 23 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือบุรีรัมย์ 6 ศพ จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด คือสุราษฎร์ธานี 23 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือเมาสุรา รองลงมาคือขับรถเร็วเกินกำหนด พาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือรถจักรยานยนต์
ส่วนนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนของช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา พบว่า วันที่ 31 ธันวาคม และวันที่ 1 มกราคมของทุกปี มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูง จึงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเส้นทางสายต่างๆ เน้นเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ สถานบันเทิง สถานที่จัดงานรื่นเริง คุมเข้มการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย พร้อมควบคุมการเข้าถึง การดื่มและการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เน้นหนักเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเป็นพิเศษ
โดยเมื่อวานนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีเนื้อหาแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 เกี่ยวกับกรณีการทดสอบการดื่มสุรา หากผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่ยอมให้ทดสอบให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเมาสุรา เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุราได้
ในส่วนของค่ายมือถือประกาศให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยคาดว่า จะมีการใช้งานดาต้าเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จึงจัดให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลเครือข่ายการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเทศกาล
และตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 7 มกราคม 2558 กระทรวงวัฒนธรรมจัดกิจกรรมปล่อยขบวนรถไหว้พระ 9 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 9 รัชกาล ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ได้จัดรถโดยสารปรับอากาศ ขสมก.ให้บริการรับ-ส่งฟรี สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปไหว้พระที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดราชโอรสาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
ส่วนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เปิดอาคารคลังวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนายแพทย์เทียม อังสาชน ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าอาคารคลังวัคซีนมีระบบจัดเก็บและกระจายวัคซีนตามมาตรฐานสากล เพื่อสนับสนุนการควบคุมคุณภาพวัคซีน ทั้งช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนวัคซีนของประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีการผลิตวัคซีนชนิดใหม่ เพิ่มขึ้นและวัคซีนมาตรฐานสากลมีราคาแพง จำนวนจำกัดและบางชนิดยังไม่มีการผลิตโดยห้องปฏิบัติการขององค์การอนามัยโลก เนื่องจากเป็นวัคซีนป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขเฉพาะภูมิภาค เช่น วัคซีนไข้สมองอักเสบ เจอี
*-*