ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2563

28 ตุลาคม 2563, 20:20น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2563



'ชวน'ประสานสถาบันพระปกเกล้า ศึกษาตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาประเทศ



          ความคืบหน้าการตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ล่าสุด นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า การประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่ออภิปรายทั่วไปหาทางออกให้กับประเทศ ทั้ง 2 วันที่ผ่านมา สมาชิกเห็นตรงกันให้สภาเป็นเจ้าภาพตั้งคณะทำงานศึกษาสร้างความปรองดองขึ้นมา เพื่อหาทางออกร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุม  โดยในวันนี้ (28 ต.ค.63) ได้ประสานไปยังเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าแล้ว  เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีผู้ทรงคุณวุฒิ มีหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้ศึกษารูปแบบทางออกร่วมกัน และออกแบบโครงสร้างของคณะทำงานว่าควรเป็นอย่างไร  เนื่องจากข้อเสนอจากรัฐสภายังไม่มีความชัดเจนว่าต้องการรูปแบบใด  จึงต้องหาว่าจุดประสงค์ในการตั้งคณะทำงานคืออะไร  สามารถทำได้ และมีผลมากน้อยเพียงใด  หากจะใช้รูปแบบคณะกรรมการ จะประกอบไปด้วยใครบ้าง  และจะเชิญตัวแทนผู้ร่วมชุมนุมเข้าร่วมด้วยหรือไม่  จำเป็นต้องให้สถาบันพระปกเกล้าช่วยคิดด้วย



          ส่วนจะต้องเสนอเป็นญัตติต่อที่ประชุมรัฐสภา เพื่อให้ลงมติตั้งคณะทำงานดังกล่าวหรือไม่ นายชวน ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น เพราะยังเป็นช่วงเริ่มต้นของการหารือ



นายกฯย้ำหนุนแก้ รธน.-ตั้งคณะกรรมการหาทางออกประเทศ



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังปิดการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ โดยขอบคุณประธานรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภาทุกคนที่อภิปรายกันอย่างเรียบร้อย แม้จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  ก็ขอให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ ส่วนประเด็นข้อสรุปที่ได้จากการประชุม 2 วัน มีหลายเรื่องที่รัฐบาลเห็นด้วย เช่น รัฐบาลสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐสภา แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังมีผลบังคับใช้ จึงต้องทำตามกระบวนการ  จะไปตั้งกติกาใหม่ตามใจชอบคงเป็นไปไม่ได้  ส่วนที่จะให้อำนาจสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า จะเลือกหรือไม่เลือกก็ไม่ขัดข้อง เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ 



          นอกจากนี้ รัฐบาลยังเห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาหาทางออกของประเทศ ตามแนวทางที่เสนอในรัฐสภา โดยนำไปหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งกระบวนการแต่งตั้ง จะให้ทางรัฐสภาตั้งขึ้น มีตัวแทนจากหลายฝ่ายหลายกลุ่ม เพื่อหาข้อยุติของปัญหา ส่วนที่มีบางฝ่ายกังวลว่าคณะกรรมการชุดนี้จะถูกครอบงำ นายกรัฐมนตรี วอนขอให้ทุกฝ่ายให้เกียรติรัฐสภา ให้เคารพซึ่งกันและกันและขอให้เชื่อใจกันสักครั้ง 



          ส่วนท่าทีของต่างประเทศ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หรือ NGO นายกรัฐมนตรีไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้  บอกเพียงว่าแต่ละประเทศมีกฎหมายของตัวเอง  หากกิจกรรมใดมีปัญหา ก็ต้องพูดคุยหารือและย้ำว่าต้องไม่มีวัตถุประสงค์แอบแฝง ไม่ทำความเสียหายให้กับประเทศ  เพราะที่ผ่านมา มักพบว่า NGO มักเข้ามาเกี่ยวพันกับการพัฒนาประเทศ ทำให้กระบวนการช้าลง เช่น มีคนภายนอกเข้าไปในพื้นที่เพื่อต่อต้านการสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้งที่คนในพื้นที่ได้ประโยชน์ จึงฝาก NGO ที่อยู่ในประเทศไทย ช่วยพัฒนาประเทศ เหมือนคนไทยที่อยู่ต่างประเทศก็ต้องทำตามกฎหมายของประเทศนั้นๆเช่นกัน 



           นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลยังจำเป็นต้องนำพาประเทศต่อไป เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตในทุกเรื่อง  ขณะนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินการไปตามขั้นตอน ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ  ส่วนปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น มองว่าไม่ใช่แค่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลเท่านั้นที่มีหน้าที่แก้ไข แต่ทุกคนต้องหันหน้ามาร่วมมือกัน เจรจาพูดคุย ประนีประนอมกันอย่างสันติวิธีจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะทุกคนคือคนไทย   ซึ่งเชื่อว่าทางออกของประเทศมีอยู่แล้ว ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า ทุกคนจะร่วมมือกันเลือกหนทางที่ดีที่สุดให้กับประเทศ ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ที่ต้องการให้ลาออก นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถาม แต่ระบุว่า ไม่อยากให้เป็นบรรทัดฐานในอนาคต เพราะทุกอย่างมีกระบวนการเลือกตั้ง กระบวนการของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยเกลียดชังใคร แม้จะถูกว่าร้ายต่างๆนานา แต่ต้องอดทนรับฟัง ไม่โมโห ไม่โกรธ พูดจาไพเราะ เพราะเป็นนายกรัฐมนตรี 



มติศาลรธน.เสียงข้างมาก "ธัญญ์วาริน" ถือครองหุ้นสื่อ หลุดส.ส.ก้าวไกล ริบเงินเดือนคืน-โทษอาญา



          ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากว่า นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ หรือ กอล์ฟ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตส.ส .พรรคอนาคตใหม่ มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อเป็นเหตุให้สมาชิกภาพความเป็นส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3) ประกอบมาตรา 101(6) นับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.62 ซึ่งเป็นวันสมัครรับเลือกตั้ง



          ทั้งนี้นายธัญญ์วาริน เป็น ส.ส.เพียงคนเดียว ที่ศาลสั่งให้สิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็น ส.ส จากจำนวนส.ส. 64 คน ที่ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีถือหุ้นสื่อ



          หลังจากนี้ เมื่อศาลมีคำวินิจฉัยดังกล่าว นายธัญญ์วารินอาจถูกสํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเรียกคืนเงินเดือนส.ส.และเงินค่าตอบแทนต่างๆ เนื่องจากถือว่าไม่เคยดำรงตำแหน่งส.ส.มาก่อน และถูกกกต. ดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 151 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ซึ่งกำหนดโทษไว้ว่าผู้สมัครผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์สมัครแล้วยังลงสมัครรับเลือกตั้งต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 บาทและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี



          ก่อนหน้านี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ ส.ส.จำนวน 32 คนของฝ่ายรัฐบาลและอีก 32 คนของฝ่ายค้านสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อหรือไม่



         โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ส.ส. 29 คน ฝ่ายรัฐบาล ไม่ได้ถือหุ้นสื่อ ไม่เข้าข่ายประกอบกิจการสื่อมวลชน ส่วนอีก 3 คน คือ นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล และนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ศาลสั่งจำหน่ายคดีเพราะพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.แล้ว



หุ้นไทยลดลง แม้ปัจจัยการเมืองจะลดความร้อนแรง



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,207.94 จุด ลดลง 1.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,081.11 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยโมเมนตัมในประเทศผ่อนคลายพอควรจากปัจจัยการเมืองลดความร้อนแรงหลังผ่านการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญแล้ว ทางรัฐบาลก็พยายามที่จะหาทางออกในการแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้มีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว อิงหุ้นที่คาดจะมีงบการเงินไตรมาส 3/63 ออกมาดี เป็นต้น



          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ โดยถูกกดดันจากเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และนักลงทุนวิตกกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 23,418.51 จุด ลดลง 67.29 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐฯและทั่วโลก ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 24,708.80 จุด ลดลง 78.39 จุด



ปัจจัยการเมืองส่งผล เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ลอยกระทงเงินสะพัดน้อยลงต่ำสุดในรอบ 9 ปี



          การใช้จ่ายในวันลอยกระทง นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจการใช้จ่ายในช่วงวันลอยกระทง 2563 กลุ่มตัวอย่าง 1,222 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 42.7 วางแผนไปลอยกระทง แต่ลดลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีร้อยละ 36.3 ไม่คิดไปลอยกระทง โดยมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี กลัวอันตรายจากการชุมนุมและโควิด-19 ส่งผลต่อเงินสะพัดในช่วงวันลอยกระทงปีนี้ขยายตัวติดลบร้อยละ 1.5 โดยมีมูลค่าเงินสะพัดเพียง 9,429 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2555



          แม้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงปลายปีไม่ว่าจะเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน  โครงการคนละครึ่ง และช้อปดีมีคืน ไม่ได้มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก ประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย  รัฐบาลยังจำเป็นต้องมีการอัดฉีดงบประมาณการลงทุน เพื่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ แต่เวลานี้สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น โดยมองว่าการฟื้นตัวอาจล่าช้าอยู่ในช่วงไตรมาส 3 จากเดิมศูนย์พยากรณ์ฯ มองว่าเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 แต่หากการชุมนุมยืดเยื้อจนถึงสิ้นปีจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจทำให้ติดลบมากขึ้น เนื่องจากการเมืองจะทำให้ยอดขาย กำลังซื้อ รวมถึงการจ้างงานภายในประเทศแย่ลง หากมีผลจากการชุมนุมที่รุนแรง



          นอกจากนั้น ความไม่สงบภายในประเทศยังมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ รวมถึงกำลังซื้อของประชาชนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปีไม่เห็นผลเท่าที่ควรอาจทำให้มีการชะลอการใช้จ่ายไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยทางศูนย์พยากรณ์ฯ ยังคงประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ติดลบร้อยละ 7.5-8.5 และเศรษฐกิจปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 3.5-4.5 หรือเฉลี่ยเติบโตร้อยละ 4



          ด้านผลสำรวจความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจของภาคธุรกิจต่อสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อธุรกิจอันดับ 1 คือ ปัญหาโควิด-19 รองลงมา คือ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ สถานการณ์ทางการเมือง สภาพคล่องทางการเงิน ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจในสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันนั้น พบว่าภาคธุรกิจเริ่มให้น้ำหนักกับการเมืองมากขึ้น และมองว่าความขัดแย้งและความเห็นต่างทางความคิดส่งผลกระทบต่อสังคมทัศนคติและความสามัคคีภายในประเทศ ทำให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของประเทศไทยลดลง



ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รับมือโควิด-19 อีก 1 เดือน



          ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน มีมติขยายระยะเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.2563 ให้ไปสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ย.2563



           นับเป็นการขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นครั้งที่ 8



ครม.เห็นชอบนักท่องเที่ยวเรือยอร์ชเข้าไทย



          หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) โดยจะออกประกาศให้คนต่างด้าวที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดมีสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว STV ในช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ภายใน 30 วัน หลังจากมีประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564



          น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คุณสมบัติที่กำหนดของคนต่างด้าวที่มีสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว STV มีดังนี้ เป็นบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ หรือผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำหรือความเสี่ยงปานกลาง ตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำหรับการผ่อนคลายผู้ไม่มีสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักรตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจะต้องยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 และยินยอมกักตัวภายในเรือไม่น้อยกว่า 14 วัน พร้อมกับมีหลักฐานเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา



          นอกจากนี้ยังต้องมีหลักฐานกรมธรรม์การทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองตรวจรักษาโรคโควิด-19 ในวงเงิน 100,000 เหรียญสหรัฐฯ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในประเทศไทย รวมถึงการทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุของไทยคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีจำนวนเงินประกันภัยสำหรับค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก ไม่น้อยกว่า 40,000 บาท และผู้ป่วยในไม่น้อยกว่า 400,000 บาท และมีหลักฐานการชำระเงินล่วงหน้าในการเช่าจองสถานที่จอดเรือ พร้อมปฏิบัติตามประกาศของกรมเจ้าท่าว่าด้วยแนวปฏิบัติสำหรับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) ที่เข้ามาในน่านน้ำไทย



          สำหรับบุคคลต่างด้าวที่มากับเรือยอร์ชที่ผ่านคุณสมบัติแล้ว จะขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว STV จะเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้เป็นเวลา 90 วันนับแต่วันที่เดินทางเข้ามา อย่างไรก็ตาม ให้ผ่อนผันสำหรับกรณีที่เรือยอร์ชเดินทางออกจากประเทศต้นทางและอยู่ระหว่างการเดินทางเข้ามาในน่านน้ำไทยก่อนที่ประกาศจะมีผลบังคับใช้ กลุ่มนี้จะได้รับสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว STV ได้เป็นเวลา 30 วันหลังจากที่ประกาศมีผลบังคับใช้ และภายหลังจากที่ครบกำหนดอยู่ในไทยแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้อีก 2 ครั้ง ๆ ละ 90 วัน โดยให้คนต่างด้าวยื่นคำขอและเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

ข่าวทั้งหมด

X