ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันพุธ 28 ตุลาคม 2563

28 ตุลาคม 2563, 07:53น.



พายุโมลาเบ ถล่มไทย 31จังหวัด 28-30 ต.ค.เริ่มที่ จ. อุบลฯ ก่อน  




          การตรวจสอบจุดเสี่ยง พื้นที่เฝ้าระวังน้ำหลาก น้ำท่วม พร้อมรับพายุไต้ฝุ่นโมลาเบ (พายุระดับ 5) ที่คาดว่าจะทำให้ไทยได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ทั่วประเทศ 28-30 ต.ค.2563 ทิศทางของพายุ คาดว่าเช้านี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน (พายุระดับ 3) ก่อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เริ่มจากที่ จ.อุบลราชธานี มีรายงานว่ากลุ่มฝนเริ่มก่อตัวแล้ว   



อุบลฯ เตือนภัยบ้านริมน้ำ



          นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะรองผู้อำนวยการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอุบลราชธานี มีหนังสือแจ้งเตือนถึงหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอ นายกเทศมนตรีทุกแห่ง ให้เตรียมรับมือพายุโมลาเบ ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงตามที่ราบลุ่มติดริมแม่น้ำ ติดที่ราบเชิงเขา




          กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังเขื่อนและอ่างเก็บน้ำเกินความจุ 6 แห่ง เช่น อ่างเก็บน้ำจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ ,อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำมูลบน จ.นครราชสีมา, อ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชล จ.นครนายก, อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จ.ระยอง รวมทั้งเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง แม่น้ำมูล บริเวณ ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา, ต.ทุ่งกุลา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์, ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ลำปะเทีย บริเวณ ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์, ลำชี บริเวณ ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์, ห้วยทับทัน บริเวณ ต.ห้วยทับทัน อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ เป็นต้น



Windy.com 



เวียดนาม คาดความรุนแรงของพายุโมลาเบ แรงเท่าไต้ฝุ่นดอมเรย์  เสียชีวิต-สูญหาย 123 ราย



          เวียดนาม สั่งอพยพประชาชนเพิ่มขึ้นกว่า 571,700 คน จากเกือบ 146,900 ครัวเรือน ใน 6 จังหวัดทางตอนกลางของประเทศ คณะกรรมการกลางเพื่อป้องกันและควบคุมภัยพิบัติทางธรรมชาติของเวียดนาม รายงานว่า ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน-เหว้ ดานัง กว๋างนาม กว๋างไหง บิ่ญดิ่ญ และฟู้เอียน คาดว่าในวันนี้พื้นที่ชายฝั่งทะเลตั้งแต่เมืองดานังไปจนถึงจังหวัดบิ่ญดิ่ญ จะเผชิญลมแรงที่มีความเร็วลมสูงสุด 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรงถึง 183 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในพื้นที่ภูเขา ที่ราบลุ่ม และพื้นที่เขตเมืองในหลายจังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบสูงตอนกลางและพื้นที่ตอนกลางของประเทศ



          โมลาเบ เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 9 ที่พัดถล่มเวียดนามในปีนี้ จะทำให้มีฝนตกหนักในปริมาณสูงสุดถึง 400 มิลลิเมตรในหลายพื้นที่ของจังหวัดเถื่อเทียน-เหว้ ลงไปถึงจังหวัดฟู้เอียน ตั้งแต่คืนวันอังคาร 27 ต.ค.2563 ถึงวันพฤหัสบดี 29 ต.ค.2563 รวมทั้งจะมีฝนตกในปริมาณน้ำฝนสูงสุดถึง 700 มิลลิเมตร ในจังหวัดห่าติ๋ญและบางส่วนของจังหวัดเหงะอาน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเสาร์ 31 ต.ค.2563



          คณะกรรมการฯ คาดการณ์ว่าพายุไต้ฝุ่นโมลาเบจะมีกำลังแรงเทียบเท่าพายุไต้ฝุ่นดอมเรย์ (Damrey) ที่พัดถล่มเมื่อปี 2017 ทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 123 ราย และทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 22 ล้านล้านดองเวียดนาม หรือ ราว 2,900 ล้านบาท



          หน่วยงานด้านสภาพอากาศของลาว ออกประกาศเตือนว่าในวันนี้พื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศจะเผชิญกับฝนและลมแรงจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นโมลาเบ ขณะที่ พายุเคลื่อนตัวมาจากภาคกลางของเวียดนาม แม้พายุจะอ่อนกำลังลง ขณะเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ลาว แต่คาดว่าอิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนักและมีกระแสลมแรงทั่วภาคกลางและภาคใต้ของประเทศในสองวันนี้



          ทางการลาว เตือนประชาชนให้ระมัดระวัง เนื่องจาก ลาวเพิ่งเผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่จากอิทธิพลของพายุหลิ่นฟาและพายุนังกา หลายหมู่บ้านใน 8 อำเภอ ของแขวงสะหวันนะเขต ที่อยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศราว 410 กิโลเมตร ประสบกับน้ำท่วมฉับพลันท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำ ประชาชนมากกว่า 15,000 คน จาก 3,000 ครอบครัว ต้องอพยพไปพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว อุทกภัยครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดของลาวที่เผชิญในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้หลายพันครอบครัวต้องไร้ที่อยู่อาศัย



จมน้ำเสียชีวิต 3 รายในฟิลิปปินส์ กว่า 70,000 คน อยู่ในศูนย์พักพิงกว่า 800 แห่ง




          ทางการฟิลิปปินส์ รายงานความเสียหายว่า หลังพายุไต้ฝุ่นโมลาเบ พัดถล่มพื้นที่ตอนกลางของฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดน้ำท่วมและประชาชนกว่า 70,000 คนอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวกว่า 800 แห่ง มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 3 ราย และมีผู้สูญหายที่เป็นชาวประมงอีกจำนวนหนึ่งที่ออกเรือในช่วงที่มีคลื่นลมแรง



          คณะกรรมการจัดการและบรรเทาความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ (NDRRMC) เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้น ฟิลิปปินส์ต้องรับมือกับพายุราว 20 ลูกเป็นประจำทุกปี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพายุที่มีความรุนแรงและทำลายพื้นที่ทางการเกษตร ที่อยู่อาศัย และระบบโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อปี 2556 พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเป็นพายุรุนแรงที่สุดที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายเป็นจำนวนมาก



 



 

ข่าวทั้งหมด

X