ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563
อุตุเตือน ไต้ฝุ่น โมลาเบ ฉบับที่ 1 ขึ้นฝั่งเวียดนาม 28 ต.ค.นี้
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ พายุไต้ฝุ่น "โมลาเบ" (พายุระดับ 5) ฉบับที่ 1 มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 28 - 30 ตุลาคม 2563 ดังนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (26 ตุลาคม 2563) พายุไต้ฝุ่น "โมลาเบ" (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 13.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณ ประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ มีฝนตกหนักและมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
นายกฯเวียดนามเตือนภัย พายุโมลาเบ พายุลูกที่ 4 สร้างความเสียหายแน่
พายุไต้ฝุ่นโมลาเบจะเป็นพายุลำดับที่ 4 ที่พัดถล่มเวียดนามในรอบเดือนนี้ ขณะที่อุทกภัยและดินถล่มจากพายุครั้งก่อนหน้าทำให้มีผู้เสียชีวิต 130 รายและผู้สูญหาย 20 คนในพื้นที่ตอนกลางของเวียดนาม นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุก ของเวียดนามออกประกาศเตือนภัยพายุโมลาเบในจังหวัดและเมืองต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางพายุว่า พายุไต้ฝุ่นดังกล่าวมีความรุนแรงมาก และจะส่งผลกระทบครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้าง ผู้นำเวียดนามยังได้เปรียบเทียบพายุโมลาเบกับพายุไต้ฝุ่นดอมเรยที่คร่าชีวิตชาวเวียดนามกว่า 100 รายในพื้นที่ตอนกลางของประเทศในปี 2560 พร้อมทั้งสั่งเรือทุกลำงดออกจากฝั่ง และกำชับให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยเตรียมความพร้อมเต็มที่ แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมว่า กองทหารเวียดนามต้องเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดกำลัง โดยเฉพาะการใช้เฮลิคอปเตอร์ รถถัง และยานพาหนะอื่น ๆ หากมีความจำเป็น
ธนาคารโลกระบุว่า มีชาวเวียดนามราว 11.8 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่ง และได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยมีร้อยละ 35 ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งที่แออัด
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เตรียมรับมือ โมลาเบ กระทบไทย
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังคงกำชับทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วหากมีเหตุฉับพลัน เนื่องจากช่วงวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ลักษณะอากาศว่า พายุโซนร้อนโมลาเบอาจจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้และมีผลกระทบกับไทยในช่วงดังกล่าว ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้นเพื่อไม่ประมาท จึงประสานให้กรมชลประทานพิจารณาการพร่องน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง และอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ในอัตราที่เหมาะสม และเกิดผลกระทบน้อยที่สุด
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา รายงานพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสูง ประกอบด้วย อ.โชคชัย 6 ตำบล 760 หมู่บ้าน อ.โนนสูง 4 ตำบล 12 หมู่บ้าน 400 ครัวเรือน อ.เมือง 7 ตำบล 1 เทศบาลนครราชสีมา รวม 27 หมู่บ้าน 5 ชุมชน 798 ครัวเรือน อ.พิมาย 6 ตำบล 22 หมู่บ้าน 155 ครัวเรือน อ.เฉลิมพระเกียรติ 4 ตำบล 19 หมู่บ้าน 781 ครัวเรือน และ อ.จักราช 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน 61 ครัวเรือน
ฟิลิปปินส์ เร่งอพยพชาวบ้านกว่า 2หมื่นคนหนีพายุ
สำนักงานป้องกันพลเรือนของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ชาวบ้าน 25,000 คน อพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในโรงเรียนหรือสถานที่ราชการ เนื่องจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วม หลังพายุไต้ฝุ่นโมลาเบ (Molave)พัดถล่มคาบสมุทรบีโคล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะลูซอนเมื่อค่ำวานนี้ ด้วยความแรงลม 180 กม.ต่อชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศฟิลิปปินส์ คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวพ้นจากฟิลิปปินส์ในวันนี้ มุ่งหน้าไปทะเลจีนใต้
เบื้องต้นยังไม่มีรายงานเรื่องการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่มีชาวประมงสูญหาย 12 คน ขณะที่นักท่องเที่ยว 7 คนได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย หลังเรือยอร์ชลำหนึ่งอับปางนอกชายฝั่งของจังหวัดบาตังกัส ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา ส่วนความเสียหายอื่นๆเช่น เกิดน้ำท่วม พื้นที่เกษตรในบางพื้นที่ได้รับความเสียหาย
นายกฯ เผย สัปดาห์หน้าเตรียม เสนอร่างพ.ร.บ.ประชามติเข้าสภา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล่าวชี้แจงระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า “รัฐบาลได้มีการเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมาหารือเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญกันอย่างไร ซึ่งในเดือนพ.ย.จะมีการพิจารณารัฐธรรมนูญในวาระที่1 2 3 และแล้วเสร็จประมาณเดือนธ.ค.แต่ก็ยังคงประกาศใช้ไม่ได้ เพราะต้องรอการทำประชามติก่อน ซึ่งในสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะเสนอพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติเข้าสภา เมื่อพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติเสร็จ ก็ต้องทำประชามติต่อ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผมสนับสนุนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ผลตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิด'หญิงฝรั่งเศส' เกาะสมุยไม่พบเชื้อโควิด!
หลังจากที่ตรวจพบหญิงชาวฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะสมุย นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะสมุย เผยว่า จากการสอบสวนโรคพบผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดหญิงชาวฝรั่งเศส จำนวน 110 คน เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 30 คน แยกเป็นครอบครัวเดียวกัน จำนวน 2 คน ผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกัน จำนวน 12 คน และผู้สัมผัสในชุมชน จำนวน 14 คน รวมทั้งหมด 28 คน ผลตรวจเป็นลบไม่พบเชื้อโควิด-19 และยังรอผลตรวจอีก 2 คน ล่าสุดวันนี้ผลตรวจออกมาแล้วทั้ง 2 คน มีผลเป็นลบไม่พบเชื้อโควิด-19
เช่นเดียวกับ ผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำเฝ้าระวัง 80 ราย แยกเป็นเจ้าหน้าที่สนามบิน จำนวน 29 คน ผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกัน จำนวน 23 คน และผู้ให้บริการทางการแพทย์ จำนวน 28 คน ทั้งหมดไม่มีอาการเช่นกัน
ด้านพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงพื้นที่เกาะสมุยในวันที่ 2 พ.ย. 63 เพื่อชมการสาธิตการเคลื่อนย้ายนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเครื่องบินมายังสนามบินสมุย ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการของโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ในระบบ ALSQ (Alternative Local State Quarantine) ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองท่าเทียบเรือเฟอร์รี่บ้านหน้าทอน
กรมอนามัย สั่งฟิตเนสคุมเข้มต้อง 'เช็กอินไทยชนะ - เว้นระยะห่าง - เช็ดล้างอุปกรณ์'
หลังไทยพบหญิงชาวฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ และพบเชื้ออยู่ที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายในห้องฟิตเนส ภายในสถานที่กักกันนั้น นพ. สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 ในสถานประกอบการจึงยังคงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมอนามัย ผู้ประกอบการประเภทสถานที่ออกกำลังกายหรือฟิตเนส ต้องมีการคุมเข้มด้านความสะอาดและปฏิบัติ ตามแนวทางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ตั้งแต่มีการกำหนดจุดลงทะเบียนคัดกรองผู้เข้าใช้บริการ ส่วนพนักงาน และเทรนเนอร์ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร และจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด รวมทั้งทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องออกกำลังกาย บริเวณที่นั่งและส่วนที่เป็นจุดเสี่ยงที่มีการสัมผัสซ้ำ เช่น มือจับของอุปกรณ์ออกกำลังกาย ปุ่มกดของลู่วิ่งหรือเครื่องปั่นจักรยาน เป็นต้น โดยต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำทั้งก่อนและหลังใช้อุปกรณ์
ในส่วนของผู้มาใช้บริการต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” และสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อเข้าใช้บริการ ช่วงขณะที่ออกกำลังกายสามารถ ถอดออกได้ เนื่องจากเวลาออกกำลังกาย ร่างกายจะต้องการออกซิเจนมากขึ้น สังเกตได้จากการหายใจเร็วขึ้น การสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าจะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ นอกจากนี้ก่อนเล่นให้เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยผ้าและน้ำยาทำความสะอาดที่ทางฟิตเนสเตรียมไว้ให้ แต่เพื่อความมั่นใจ ควรพกสเปรย์แอลกอฮอล์เข้มข้น 70 เปอร์เซ็นต์ไปด้วย ฉีดทิ้งไว้ 30 วินาทีจนเริ่มแห้ง แล้วค่อยเช็ดตามด้วยผ้าและอย่าลืมเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งหลังเล่นเสร็จ รวมทั้งควรเพิ่มระยะห่างในการใช้อุปกรณ์ สำหรับ ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการพูดคุยระยะใกล้ชิดกัน และล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก และหลีกเลี่ยงการอยู่บริเวณที่มีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก
ผลสอบสตช. พบอมเงินโควิด-19 ตำรวจมีจริง ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีทุกราย
ผลการตรวจสอบปมทุจริตเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม กล่าวว่า จากรายงานผลการประชุมพบว่ามีการดำเนินการไม่ตามระเบียบในหลายหน่วยงานทั้งในระดับตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 คือ โอนให้กับผู้ไม่มีสิทธิ์ หรือโอนให้ผู้ที่มีสิทธิ์แล้วถอนออกมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งให้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดทุกราย พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันว่าตำรวจที่ทำงานตั้งด่านต้องได้เงินเต็มตามจำนวนหมดทุกหน่วย
เมื่อแยกความผิดตามท้องที่ พบว่า ภูธรภาค1 มีที่ จ.สระบุรี นนทบุรี ซึ่งตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนแล้ว ภาค 3 มี จ.สุรินทร์ ภาค4 จ.เลย สภ.ท่าลี่ และอื่นๆ จ.ขอนแก่น สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ภาค5 จ.เชียงราย ภาค 6-7 ยังไม่พบ ภาค 8 สภ.ทุ่งสง สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต สั่งภาคทัณฑ์ ภาค 9 จ.พัทลุง โดยระเบียบ ก.ตร.กำหนดเบี้ยเลี้ยงให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกชั้นยศชั่วโมงละ 60 บาท ไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน ตามหลักต้องโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของเจ้าหน้าที่โดยตรง หากโอนไปบัญชีอื่นใดก็ผิดหมด เพราะเรามีเส้นทางการเงินที่ชัดเจน จะมอบอำนาจให้คนอื่นโอนไม่ได้ โดยผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่การเงินที่กระทำเป็นรายบุคคลทั้งหมด ยังไม่ใช่เครือข่าย บางแห่งอาจจะทุจริตทั้งจังหวัด บางแห่งอาจจะเฉพาะโรงพัก ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าเป็นการจงใจหรือเกิดจากข้อผิดพลาด สำหรับในนครบาลต้องดูว่ามีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจในม็อบหรือไม่ ทั้งนี้ มีโรงพักที่ร้องเรียนมาประมาณสิบกว่าแห่ง ยังมีหน่วยอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ร้องเรียนเข้ามา แต่ก็ต้องตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมดเช่นกัน
สำหรับขั้นตอนการสืบสวนข้อเท็จจริง ระเบียบ ก.ตร.กำหนดเวลาทำงานใน 60 วันหรือเร็วกว่านั้น หากไม่ทันก็ขยายเวลาให้ผู้ถูกกล่าวหา หาเหตุผลมาหักล้าง และตั้งกรรมการตรวจสอบว่าผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งโทษสูงสุดคือสั่งปลดออกจากราชการ และคดีอาญาก็ต้องยื่นเรื่องไปถึง ป.ป.ช. ต่อไป
โครงการคนละครึ่ง 3 วันแรกมียอดใช้จ่ายรวมกว่า 500 ล้านบาท
โครงการคนละครึ่งได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันแรกตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 8.5 ล้านคน และมีร้านค้าร่วมโครงการกว่า 3.5 แสนร้านค้า โดยในช่วงเที่ยงของวันที่ 26 ตุลาคม 2563 มีผู้ใช้สิทธิแล้ว 1,245,528 คน ยอดใช้จ่ายรวมทั้งหมด 502.9 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 259.4 ล้านบาท และรัฐช่วยจ่ายอีก 243.5 ล้านบาท โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 234 บาทต่อครั้ง
เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของการใช้จ่ายพบว่า มีการใช้จ่ายมากที่สุดเรียงลำดับ ได้แก่ ร้านธงฟ้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป และร้าน OTOP โดยใช้จ่ายครบทุกจังหวัด ซึ่งจังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครศรีธรรมราช และสงขลา
ประชาชนยังสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในช่วงเวลา 06.00 – 23.00 น. ต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าจะครบ 10 ล้านคน โดยท่านที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ ติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ตนได้รับ SMS แจ้ง รับสิทธิหรือนับตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 สำหรับผู้ที่ได้รับ SMS ก่อนวันดังกล่าว มิเช่นนั้นจะถูกตัด สิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คน ละครึ่ง.com ในช่วงเวลา 06.00 – 23.00 น. หรือ ณ สาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงการคลังได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์และ อำนวยความสะดวกในการรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยให้กำนันและ ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาช่วยในการยืนยันข้อมูลผู้ประกอบกิจการร้านค้าเพื่อให้มีร้านค้ารองรับการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มมากขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
การเมืองไทย กดหุ้นปิดตลาดลดลง 5.64 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,207.97 จุด ปรับลดลง 5.64 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 41,591 ล้านบาท นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก อีกทั้งความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯ โดยตลาดยังคงจับตาการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครต ในข้อตกลงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือไม่ ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังมีแรงกดดันการเมือง การชุมนุมและการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อร่วมหาแนวทางแก้ปัญหาการเมือง
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯและยุโรป ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 23,494.34 จุด ลดลง 22.25 จุด
ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันนี้ (26 ต.ค.) เนื่องในเทศกาลชงโหย่ง
ไม่รอลงอาญา! ศาลเพิ่มโทษ วัยรุ่นยกพวกตีกันในโรงพยาบาลเมืองสมุทร ปู่เจ้าฯ
ศาลจังหวัดสมุทรปราการ พิพากษาคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ1171/2563 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการโจทก์ นางสาวบัญชลี หรือไอซ์ ฤทธิรงค์ ที่ 1 กับพวกรวม 10 คน จำเลย ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันภายในโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2563 โดยมีผู้ต้องหาจำนวน 17 คนบุกเข้าไปภายในโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯและห้องฉุกเฉิน ใช้ไม้เบสบอล ท่อนเหล็ก เก้าอี้ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ ตีและขว้างปาคู่อริ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เก้าอี้ และทรัพย์สินอย่างอื่นได้รับความเสียหายมูลค่า 39,803 บาท ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายฯ ร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นฯ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปฯ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจฯ
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 กันยายน 2563 ศาลจังหวัดสมุทรปราการ พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ฟ้องผู้ต้องหาในข้อหา ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ความผิดต่อร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ บุกรุก ศาลได้ตัดสินพิพากษาจำเลยจำนวน 7 คน ที่รับสารภาพจากจำเลยจำนวน 17 คน จำเลยที่ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี 6 เดือน ถึง 7 ปี 6 เดือน เนื่องจากจำเลยบางคนเคยกระทำความผิดมาก่อน ศาลได้พิพากษาเพิ่มโทษทุกคน ศาลให้จำคุกโดยไม่รอลงอาญา
นอกจากนั้น วันนี้อัยการได้ฟ้องจำเลย 10 คนที่ให้การปฏิเสธต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ มีจำเลย 4 คน ให้การรับสารภาพ ส่วนอีก 6 คน ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า เข้าไปเพื่อห้ามเพื่อนที่ก่อเหตุ ศาลจึงจำหน่ายคดีที่จำเลยปฏิเสธให้อัยการโจทก์แยกฟ้องเข้ามาใหม่